Tuesday, March 31, 2009

ผมต่อ 1,000,000 ต่อ 1 ว่านายแม้วไม่กล้ารับคำท้า

ผมบอกคนที่ทนฟังผมได้เสมอว่า นักวิทยาศาสตร์จะต้องเปิดใจสำหรับปรากฏการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ไว้ด้วย ความเชื่อว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะอยู่ระหว่างเป็นไปไม่ได้ จนถึงเป็นไปได้แน่นอน และเราควรจะปรับปรุงระดับความเชื่อของเราโดยการดูหลักฐานต่างๆที่เข้ามาใหม่เรื่อยๆ (ด้วย Bayesian Inference) และเราสามารถเรียงลำดับความเชื่อด้วยการดูว่าเรายินดีต่อรองเท่าไรว่าความเชื่อนั้นๆเป็นจริง

ยกตัวอย่างเช่น ผมเชื่อว่าไม่มีผี และผมค่อนข้างมั่นใจ ผมก็ยินดีต่อ 1,000 ต่อ 1 ว่าไม่มีผี ถ้าใครสนใจจะพนัน ก็สามารถวางเงิน แล้วเอาหลักฐานว่ามีผีมาดูกัน

อีกตัวอย่างก็คือผมมั่นใจมากๆว่ากฏแรงโน้มถ่วงจะทำงานพรุ่งนี้ ผมก็แสดงความมั่นใจว่าผมยินดีต่อ 1,000,000,000,000 ต่อ 1 ว่าพรุ่งนี้ผมคงไม่ลอยขึ้นจากพื้นเนื่องจากแรงโน้มถ่วงไม่ทำงาน

ของบางอย่างผมก็ไม่ค่อยแน่ใจ เช่นผมคิดว่าประเทศไทยจะดีขึ้นตอนผมตาย ผมก็ต่อ 1 ต่อ 1 ว่าประเทศไทยจะดีขึ้น

วันนี้ผมฟังรัฐมนตรีต่างประเทศ ท่านกษิต ภิรมย์ แถลงข่าว (กดลิงค์เข้าไปฟังบทเต็ม)เรื่องนายแม้วโฟนอิน ท่านทูต(เก่า)กษิตท้านายแม้วว่า:

"ถ้าเกิดจะเล่นกันแล้วก็ขอท้าโต้วาทีกับพ.ต.ท.ทักษิณ ให้พ.ต.ท.ทักษิณ เลือกเวทีด้วย ไหนว่าพูดภาษาอังกฤษเก่งนัก เอาบีบีซีไหมครับ ซีเอ็นเอ็นไหม อัลจาซีร่าไหม แล้วก็เลือกเวทีด้วย จะเอาที่สันป่าตองก็ได้นะครับ ที่เชียงใหม่ก็ได้ ที่ฮ่องกงก็ได้ ดูไบที่ไหนพ.ต.ท.ทักษิณ โอ้อวดว่ามีเพื่อนเยอะแยะในต่างประเทศ เวทีไหนก็ได้ หรือสเตเดี่ยมของแมนเชสเตอร์ซิตี้ก็ได้ ทุกเมื่อ พร้อมเสมอ ส่วนตัวผมมีเพื่อนๆ เยอะแยะ ยาวเป็นเป็นแถวตั้งแต่พรรคประชาธิปัตย์ และเวทีพันธมิตร เลือกเอาเลย ได้เลยครับว่าเขาจะสู้กับท่านหรือไม่ อย่ามาทำอวดเก่งคนเดียว พูดคนเดียว ฟังคนเดียว และโอ้อวดโกหกพกลม ไม่เอาความจริงมาพูด พูดกันด้วยสาระเนื้อหา อุดมการณ์ อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริง นี่เป็นข้อที่ 1"

ผมฟังเสร็จก็ค่อนข้างมั่นใจว่านายแม้วไม่กล้าแน่ คนนั้นเก่งแต่พล่ามคนเดียว หนีการตรวจสอบตลอด ถึงกับยุบสภาหนีการตรวจสอบเมื่อยังอยู่ในอำนาจ (กะจะเร่งเลือกตั้งเข้ามาใหม่ ไม่ให้ใครมีโอกาสซักถามในสภา) เรื่องก็โกหกพกลม ตรวจสอบได้ง่ายๆ ผมก็เลยคิดว่าผมยินดีต่อเท่าไรว่าไม่มีการมาพูดพร้อมกันถ่ายทอดออกสำนักข่าวสากลในปีนี้แน่ๆ ความคิดแรกก็คือ ผมต่อ 10^80 (หนึ่งตามด้วยศูนย์แปดสิบตัว ซึ่งเป็นการประมาณจำนวนโปรตอนในจักรวาล) ต่อ 1 แต่ผมก็คิดว่าถ้ามีคนมาพนันด้วย จริงๆผมจะเอาอะไรจ่ายเขา ก็เลยลดอัตราต่อรองมาเหลือ ล้านต่อหนึ่ง

ปล. อีกส่วนที่ท่านกษิตพูดเหมือนที่ผมคิดคือส่วนนี้ครับ:

"แต่ผมรู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนขี้ขลาด พูดเก่งอย่างเดียวคือผ่านไมโครโฟน หนีสภา หนีการโต้วาที หนีศาล และมาด่าผมว่าเป็นผู้ก่อการร้ายสากล พ.ต.ท.ทักษิณไปจบโรงเรียนายตำรวจ จบเมืองนอกได้อย่างไร แยกแยะอะไรไม่ถูกว่าผู้ก่อการร้ายสากลกับการพูดบนเวที เพื่อแสดงความคิดเห็นและอุดมการณ์สิ่งที่ไม่ดีในแวดวงการเมืองไทย อย่ามาสาดโคลน ใส่ร้าย เหมือนเด็กเมื่อวานซีนว่าไม่รู้จะทำอย่างไรก็ให้อีกฝ่ายโกรธ และหันเหสิ่งที่ถูกต้องไม่ให้มันถูกต้องมันไม่ใช่วิสัยของคนที่สง่างาม ไม่ใช่วิสัยของนักเรียนทุน ไม่ใช่วิสัยคนที่จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และเมื่อสาดโคลนผมแล้วก็พยายามหาเรื่องฟ้องร้องคดีผมว่าไปกล่าวหาว่าอยากเป็นประธานาธิบดี ก็รู้อยู่แก่ใจว่าอยากเป็นอะไร หมดท่าแล้วก็วิ่งไปหาศาล ก็จำกันได้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณเคยบอกว่ากระบวนการยุติธรรมไม่มี หนีศาลหนีคุกหนีตารางอยู่ แต่ก็พยายามจะจ้างทนายฟ้องร้องกับคู่ต่อสู้กับนักการเมือง ก็แสดงว่าพ.ต.ท.ทักษิณเคารพแล้วซึ่งกระบวนการยุติธรรม เมื่อฟ้องคนอื่นได้ทำไมตัวเองไม่เข้าสู่แวดวงคุก ตาราง เป็นนายตำรวจ เป็นนายกฯ มาแต่หนีคุก และพยายามบ่อนทำลายประเทศไทย ดีแล้วที่จะคืนพาสปอร์ตให้ ช่วยส่งบัตรประจำตัวให้ด้วย อยากไปเป็นพลเมืองของประเทศไหนก็เชิญ อย่ามาตอแยกับประเทศไทย สังคมต้องการเดินหน้า ไม่ต้องการเผด็จการรัฐสภา ไม่ต้องการคนที่มาจากการเลือกตั้งแต่ทำตัวเป็นฮิตเลอร์ และเมื่อผมพูดแบบนี้ก็ฟ้องผมอีก เพราะถือเป็นไพ่ใบเดียวที่เหลืออยู่คือกระบวนการยุติธรรม แต่ก่อนที่จะฟ้องผมก็กลับมาเข้าคุกก่อน แล้วมาเริ่มกันตรงนี้"

Friday, March 27, 2009

A Trip To Middle-Earth?

On Thursday, Aor and the kids stayed at home. I only saw them in the morning and got back home when all the kids were asleep. When I was going to sleep, I found their plan to picnic in Middle-earth under the bed:

Mission วิดพื้นอาทิตย์ที่แปด (ดีขึ้นอีกนิด)

(ต่อจาก "Mission วิดพื้นอาทิตย์ที่เจ็ด (แหะ แหะ)" ศุกร์ที่แล้ว ทั้งซีรี่ส์กด label pushup)

วันเสาร์-อาทิตย์-จันทร์ที่แล้วพาภรรยาและเด็กๆไปเที่ยวปราณบุรีกับตายาย ลุงเอก ป้าออ น้าอุ้ย พี่เพชร และพี่นี เลยเล่นน้ำในสระโรงแรมทั้งเช้า บ่าย ผมเลยได้ความรู้ใหม่ว่ากล้ามเนื้อแขนและหน้าอกที่ใช้ในการว่ายฟรีสไตล์ เป็นคนละกลุ่มกับกล้ามเนื้อที่ใช้วิดพื้น เพราะเจ็บคนละแห่ง วันจันทร์กลับมาเหนื่อยเลยไม่มีการวิดพื้น ค่ำๆไปตีแบดเลย ตีเสร็จน่องขวาเจ็บอีก เลยวางแผนพักถึงวันพุธก่อนจะทดสอบตัวเองอีกครั้ง

เริ่มมาวันพุธ ลองทดสอบดูว่าจะได้ 100 ครั้งต่อกันไหม ปรากฏว่าทำเต็มที่ 89 ครั้ง โดยมีการหยุดพักในตำแหน่งสูงสุดให้ตัวลอยไว้ แล้วหายใจลึกๆบ้างตอนหลังๆ แสดงว่าทำได้ดีขึ้นหน่อยจากอาทิตย์ที่แล้ว แต่ยังไม่ถึง 100 อยู่ดี คงต้องให้เวลาเส้นเลือด (ที่นำอาหาร + Oxygen ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อและนำของเสียไปทิ้ง) ได้มีโอกาสพัฒนาประสิทธิภาพอีก

เนื่องจากมาเริ่มวันพุธก็เลยไม่ทำตามโปรแกรมฝึกสัปดาห์ที่หก เลยลองวิดสิบเซ็ทให้เหนื่อย ก็เลยได้ 89, 35, 40, 30, 35, 30, 30, 30, 20, 25 รวมเป็น 364 ครั้งในวันพุธ

วันพุธและวันพฤหัสนอนดึก วันศุกร์ก็เลยรู้สึกไม่ค่อยพร้อมเท่าไร ก็เลยวิดสิบเซ็ทให้เหนื่อย ได้ 30, 30, 35, 30, 35, 50, 40, 35, 30, 35 รวมเป็น 350 ครั้ง ก็คงต้องพยายามพักผ่อนให้เพียงพอ แล้วเริ่มฝึกอาทิตย์หน้าต่อ หวังว่าจะดีขึ้นอีกนิด


Wednesday, March 25, 2009

คิดถึงอาจารย์ภูวดล

อาจารย์ภูวดล ทรงประเสริฐ เคยปราศัยที่เวทีพันธมิตร ด้วยข้อมูลน่าสนใจ และลีลาดุดัน อาจารย์ป่วยและไปพักฟื้นอยู่ เลยไม่ได้ยินเสียงอาจารย์นานหลายเดือน วันนี้ได้ไปพบความเห็นอาจารย์เมื่อมีคนไปถามว่าคิดอย่างไรกับวิดีโอลิงค์ของทักษิณ

Excerpt ครับ:

“เพราะผมจะถามคนทุกๆ คนในเมืองไทยว่า คิดกันยังไงที่ได้ยิน และ ได้เห็นแกนนำเสื้อแดงประกาศยุยงให้คนไทยปลดรูปที่เรามีกันทุกบ้าน อยากรู้ว่าทุกๆคนในแผ่นดินนี้คิดกันอย่างไรครับ”

“พวกคุณเห็นคนเสื้อแดงแผ่ขยายไปทั้งแผ่นดินแล้วใช่ไหม เห็นคนจาบจ้วงสถาบันถี่ยิบขึ้นแล้วใช่ไหม ได้ยินได้เห็นการลบหลู่ของแกนนำเสื้อแดงใช่ไหม”

“ทั้งทหาร ตำรวจ ข้าราชการ นักวิชาการ และสื่อมวลชน พวกคุณทั้งหลายเข้าใจปัญหาของชาติกันแค่ไหน เข้าใจหรือไม่ว่า ภัยจากระบอบทักษิณมันรุนแรงถึงขั้นพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน”

“คนไทยในแผ่นดินนี้ทุกผู้ทุกนาม เข้าใจกันหรือเปล่าว่าผลประโยชน์ที่ทักษิณโยนมาให้ คือ ผลประโยชน์ที่เบียดบังมาจากเพื่อนร่วมชาติ ทักษิณคือตัวอันตรายในระบบการเมือง การปกครอง และทำลายกฎหมายจนป่นปี้”

“นักวิชาการทั้งหลายที่กระสันอยากแก้ไขมาตรา 112 กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รู้ใช่ไหมว่าถ้าแก้ไขในเร็ววันนี้เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัว โกลาหล และใครจะรับประกันได้ว่า ระบอบใหม่จะได้คนดีมีคุณธรรม”

“ผมจึงอยากถามไงว่า ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ นักวิชาการ นักสื่อสารมวลชน คนทำงานบันเทิง นักธุรกิจ สาวสังคมไฮโซ และเยาวชนทั้งหลาย พวกคุณยังสบายดีกันดีอยู่ใช่ไหมครับ”

“พวกคุณคงคิดฉาบฉวยว่า เสื้อเหลืองก็ก้าวร้าว เสื้อแดงก็รุนแรง แล้วมองปัญหาผิวเผิน จนรวมหัวพูดกันเท่ๆ ว่า มาเป็นพลังเงียบดีกว่า มาใส่เสื้อสีขาวดีกว่า”

“พลังเงียบก็ดี เสื้อสีขาวก็ดี หรือแม้แต่ริบบิ้นสีขาวก็ด้วย ผมว่าพวกคุณมันขี้ขลาดตาขาว หนีปัญหา ชอบซุกขยะใต้พรม และเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ ไม่เห็นใจ และ เข้าถึงปัญหาของเพื่อนร่วมชาติ”



“ถามผู้ชายชื่อดิสธร ให้ด้วยว่า ยังจำได้ไหมครั้งหนึ่งตอนที่พันธมิตรฯ อยู่ในทำเนียบฯ คุณดิสธรเคยพูดที่จังหวัดชุมพรต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยๆ คน ว่าถ้าใครรักในหลวงไม่ต้องไปทำนาที่ทำเนียบฯ ไม่ต้องไปแสดงพลังที่ไหน รักในหลวงให้อยู่บ้าน รักในหลวงให้กลับบ้าน ไปแสดงพลังตรงนั้นไม่เกิดประโยชน์อะไร รังแต่จะทำให้เกิดความแตกแยก จำกันได้ใช่ไหมว่าคุณดิสธรพูดออกมาอย่างนี้”

“สิ่งที่คุณดิสธรพูดแล้วอ้างว่าตัวเองอยู่พรรคในหลวงซึ่งเป็นพรรคที่ใหญ่โตมากนะ มาบัดนี้ยังอยากพูดประโยคเดิมอยู่อีกไหม ในเมื่อคนเสื้อแดงกำลังยาตราทัพมาปิดล้อมทำเนียบฯ และสภาฯ อยู่รอมร่อ”

“ถ้าอยากพูดอีกเชิญออกมาพูดได้เลย ช่วยออกมาปรามกองทัพเสื้อแดงของทักษิณให้เหมือนกับเคยปรามพันธมิตรฯ ได้ไหม เชิญพูดมาอีกเอาแบบเดิมก็ได้ผมรอฟังอยู่ และคิดว่าคุณดิสธรควรรีบออกมาพูด ถ้ารักและเชื่อมั่นในความสมานฉันท์จริง”

“ผม-อาจารย์ภูวดล ทรงประเสริฐ ไม่มีนอกมีในอะไรกับใคร มีแต่หัวใจพันธมิตรฯ รักในหลวง รักพระราชินี รักสถาบันกษัตริย์ และรักเพื่อนร่วมชาติของผม”

“ผมอยากได้ยินและได้เห็นพวกคุณทั้งหลายที่กล่าวมาข้างต้น รวมถึงคุณดิสธร เจ้าของสโลแกนว่าเป็นตัวจริงเสียงจริงนะ ออกมาพูดออกมาเตือนสติกองทัพเสื้อแดงให้เหมือนกับที่เคยออกมาเตือนพันธมิตรฯ”

“ผมอยากเห็นพวกคุณออกมาให้ข้อมูลกับทุกๆ คนในสังคมไทยว่า อย่าไปช่วยทักษิณ มันโกงบ้านกินเมือง มันโกงเงินชาติมาช่วยชิน มันมักใหญ่ใฝ่สูง มันจาบจ้วง ขอให้พี่น้องกลับบ้านอย่าไปทำนากับกองทัพเสื้อแดง”



Skynet* Is Coming!

Really, look at this A.I. and tell me you are not impressed.

I asked START, "Who is Norah Jones?", and it got info from Wikipedia and Biography.com in a good short summary. By the way, do you know that Norah Jones' full name is Geethali Norah Jones Shankar?

It knows answers to a lot of questions, such as "Why is the sky blue?", "Where is the deepest spot on Earth?", "What is a Terminator?", and "What is staccato?" However, when I asked "Who created Skynet?", it said "Sorry, I don't have this information."

*Skynet is the A.I. that decimated the human population in Terminator movies and series.

Tuesday, March 24, 2009

"One Mile Is About Phi Kilometers" And Other Mathematical Coincidences

There's an amusing coincidence that one mile is about phi kilometers (too big by about 5%, where phi is the golden ratio = (1 + √5 )/2 ≈ 1.61803...)

From the Wikipedia page: Since the golden ratio is the limit of the ratio of successive terms of the Fibonacci sequence (1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, ...), this gives a sequence of approximations Fn miles = Fn+1 kilometers, e.g. 5 miles = 8 km, 8 miles = 13 km, 13 miles = 21 km, ...

By the way, 1 mile = 1.609344 kilometers. My rule of thumb is 60 miles ≈ 100 km (too big by about 4%.)

There are also a lot of curious coincidences on this page. For example, do you know that π4 + π5 = e6 to 5 parts in a hundred millions?

Friday, March 20, 2009

Mission วิดพื้นอาทิตย์ที่เจ็ด (แหะ แหะ)

(ต่อจาก "Mission วิดพื้นอาทิตย์ที่หก (Train จบแล้ว รอสอบ Final)" ศุกร์ที่แล้ว ทั้งซีรี่ส์กด label pushup)

หลังจากจบโปรแกรมอาทิตย์ที่หกวันศุกร์ที่แล้ว โปรแกรมให้พักวันสองวัน แล้วพยายามวิดพื้นต่อกันให้ได้ 100 ครั้งเป็นการทดสอบครั้งสุดท้าย

ผมทำการทดสอบตอนเย็นวันอาทิตย์ ความจริงยังรู้สึกเจ็บหน้าอกนิดหน่อย แต่คิดว่ายังไงๆก็ไม่น่าจะผ่าน คงได้ทำซ้ำโปรแกรมอาทิตย์ที่หกแหงๆ ถ้าไม่ผ่านจะได้เริ่มซ้ำตั้งแต่วันจันทร์ ก็เลยเริ่มวิด ผลก็ออกมาตามคาด คือไม่ถึงร้อย แต่ต่ำกว่าที่คิดไปหน่อย คือได้ 71 ครั้ง ก็เสียกำลังใจนิดหน่อย แต่คิดว่าไม่เป็นไร เดี๋ยว train ต่อ

วันจันทร์ จะเริ่ม train ซ้ำ โปรแกรมให้ทำ 45, 55, 35, 30, และอย่างน้อย 55 พอเริ่มเซ็ทแรกก็เริ่มรู้ตัวว่าถ้าจะไม่รอด หน้าอกยังไม่ recover จากการบาดเจ็บวันอาทิตย์ ทำไปได้ 50 ครั้งก็เลิกทำไปเลย พักดีกว่า ไปตีแบดกับน้องๆที่ Office ก็ยังตีได้เหมือนเดิม reflex เหมือนเดิม ตบไม่ค่อยแรง วันอังคารพักจากการวิดพื้น แขนไม่เจ็บ หน้าอกเจ็บนิดหน่อย

วันพุธ หน้าอกไม่เจ็บแล้ว เขาให้ทำ 22, 22, 30, 30, 24, 24, 18, 18, และอย่างน้อย 58 ปรากฏว่าผมจดจำนวนครั้งไปเกิน คือเพิ่มเซ็ท 30 ไปอีกหนึ่งเซ็ท แต่ตั้งใจว่าจะทำให้มากที่สุดจนทำไม่ไหว ก็เลยทำได้ 25, 25, 30, 30, 35, 25, 35, 25, 25, 60 และแถมได้อีก 40 และ 30 รวมเป็น 385 ครั้ง เหนื่อยใช้ได้เลย วันพฤหัสแขนและหน้าอกก็เจ็บได้เรื่องตามคาด

วันศุกร์ก็ยังเจ็บอยู่นิดหน่อย แต่ไม่เจ็บเท่าวันจันทร์ โปรแกรมให้ทำ 26, 26, 33, 33, 26, 26, 22, 22, และอย่างน้อย 60 ก็ทำได้ 30, 30, 33, 33, 30, 30, 25, 25, 60 และแถมได้อีก 30 และ 20 รวมเป็น 346 ก็เลิก กลัวกล้ามเนื้อบาดเจ็บเกินเหตุ คิดว่าจะพักนานหน่อยให้กล้ามเนื้อพร้อมเติมที่ แล้วจะทดสอบอีกทีวันอังคารไปเลย แต่ผมสงสัยว่า 60-70 จะเป็นเพดานของผมหรือเปล่า คงต้องลองดูต่อไป

ต้องท่องคาถา "อย่าท้อ อย่าหยุด อย่าเบื่อ" ต่อไป ถ้าไม่ตายก่อนก็น่าจะสำเร็จสักวัน



Links About Science Education

Ars Technica has a nice summary of a new website that should promote understanding of what science is and how it progresses.

Also, Adam Savage of MythBusters has three suggestions on how to improve science education. I'm practicing #1 and #3 in my teaching of small kids. For #2, I don't have a lot of budget, so I concentrate on things that can be found around the house to demonstrate how nature works. (Anyone has an electron microscope lying around unused? Want to donate?)

Friday, March 13, 2009

Mission วิดพื้นอาทิตย์ที่หก (Train จบแล้ว รอสอบ Final)


(ต่อจาก "Mission วิดพื้นอาทิตย์ที่ห้า (Ode To Joy!)" ศุกร์ที่แล้ว ทั้งซีรี่ส์กด label pushup)

จบจากอาทิตย์ที่ห้า ต้องทำ exhaustion test อีกเพื่อดูว่าจะต้องทำโปรแกรมไหนในอาทิตย์ที่หก ปรากฏว่าทำได้ 62 ครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าร่างกายจะปรับตัวได้เร็วอย่างนี้ ทำ exhaustion test ครั้งแรกก่อนเริ่มโปรแกรมทำได้ 15 พอสิ้นอาทิตย์ที่สองได้ 30 สิ้นอาทิตย์ที่สี่ได้ 44 และสิ้นอาทิตย์ที่ห้าได้ 62 ครั้ง มากกว่าที่ผมทำได้ตอนอายุยี่สิบต้นๆ :-D แถมตอนนั้นน้ำหนักน้อยกว่านี้เกือบๆสามสิบกิโล

อาทิตย์ที่หกเป็นอาทิตย์สุดท้ายแล้ว จำนวนครั้งดูโหดกว่าอาทิตย์ก่อนๆขึ้นไปอีก

เริ่มวันจันทร์แบบไม่ค่อยมั่นใจ(เป็นอาการปกติเวลาเริ่มอาทิตย์ใหม่) เขาให้ทำ 45, 55, 35, 30, และไม่ต่ำกว่า 55 ก็เจ๊งเซ็ทสุดท้ายไปเยอะเหมือนกัน ทำได้ 45, 55, 35, 30, 40 (<-ตกไป 15) พักสักครู่ทำแถมได้อีก 7 และ 20 ไปตีแบดได้ OK แต่ตบไม่แรง วันอังคารเจ็บแขนและหน้าอกบ้าง สงสัยร่างกายซ่อมตัวเองกันใหญ่

วันพุธต้องทำ 22, 22, 30, 30, 24, 24, 18, 18, และไม่ต่ำกว่า 58 มองๆดูก็คิดว่าน่าจะพอทำแปดเซ็ทแรกได้ แต่เซ็ทสุดท้ายจะไหวหรือ ปรากฏว่าทำไปแปดเซ็ทแรกก็เหนื่อยบ้าง แต่ยังพอมีแรง เลยพักสูดออกซิเจนลึกๆ แล้วเริ่มเซ็ทสุดท้ายไปเรื่อยๆ แขนเริ่มหมดแรงตอนได้ 50 เลยปั๊มอากาศเข้าปอดเยอะๆลึกๆ แล้วทำไปเรื่อยๆโดยพยายามไม่คิดถึงความเจ็บที่แขน แล้วก็สำเร็จที่ 59 ครั้ง มากกว่า minimum ไปหนึ่งครั้ง พักอีกหลายนาทีเหมือนกัน แล้วแถมได้อีก 31 ครั้ง วันพฤหัสแขนและหน้าอกเจ็บเล็กน้อย น้อยกว่าวันอังคาร

วันศุกร์แอบดูว่าเซ็ทสุดท้ายต้องทำเท่าไร พอเห็นว่า 60 ก็คิดว่าพอมีโอกาสทำได้ เพราะมากกว่าวันพุธนิดเดียว เลยไม่ค่อยตื่นเต้น เซ็ทที่ต้องทำก็มี 26, 26, 33, 33, 26, 26, 22, 22, และอย่างน้อย 60 ก็ทำได้ครบหมดพอดีทุกเซ็ท แล้วแถมได้อีก 33

โปรแกรมให้พักวันสองวันแล้วพยายามทำ exhaustion test ให้ได้ถึง 100 อีกไม่นานก็คงรู้ผลว่าจะทำได้ไหม ถ้าไม่สำเร็จเขาให้ทำอาทิตย์ที่ห้าหรือหกใหม่

ปล.

1. จำนวนครั้งที่ฝีกวิดพื้นตลอดโปรแกรมทั้้ง 18 วันเป็นดังนี้: 41, 43, 63, 60, 68, 86, 80, 115, 130, 130, 164, 179, 176, 197, 237, 232, 278, 307 วันสุดท้ายมากกว่าวันแรกกว่าเจ็ดเท่า ดูเหมือนเป็นโปรแกรมที่ได้ผลมากพอควร

2. สองอาทิตย์แรกแย่กว่าอาทิตย์หลังๆ สำคัญมากที่ต้องไม่หยุดไปก่อน ร่างกายเริ่มปรับตัวได้ประมาณอาทิตย์ที่สาม

3. กราฟจำนวนครั้งที่วิดพื้นในแต่ละวัน:
4. น้ำหนักลดไปอีกหลายขีดเหมือนกัน น้ำหนักเหลือ 98.7 กิโลแล้ว (ศุกร์ที่แล้ว 99.5 ลดไปได้ทั้งหมดประมาณ 5-6 กิโลตั้งแต่เริ่มโปรแกรม)


Wednesday, March 11, 2009

An Interesting Account Of How To Teach Math

At the University of Illinois Urbana-Champaign, there is a class called Calculus and Mathematica. The class is intended to address the problem of learning mathematics where students don't understand why they are learning a particular thing and forget most of the things they are supposed to learn after they are done with the class.

From the FAQ:

As Sue C. Heffelfinger,M.D. put it: "My husband and I suffered through many years of dull college math, I for one didn't learn anything about calculus until I took physical chemistry." Like Dr. Heffelfinger, when most people reflect on the math courses they took in college or high school, they get a hazy look on their face. Those who have been through a conventional mathematics class are often hard-pressed to explain what the course was about. They remember math was hard but often have little memory of what they actually learned.

Often these classes presented students with collections of "skills" which they were to memorize. The problem was that many folks forgot these skill shortly after they completed the class. The skills had to be memorized because they meant little to the students' intellects.

C&M courses address this problem using modern technology to concentrate on the ideas and concepts of mathematics treating the "skills" as ancillary but sometimes important. Former C&M students can rekindle the skills when they need them because they have the conceptual background to understand what the "skills" try to do.


I always told my students that all the learning is done in their brains, I am just a guy to tell them something interesting exists and cannot make them learn anything. This is why I find this class description of active learning appealing.

BTW, I've been wondering about learning with tools such as Mathematica before.

Tuesday, March 10, 2009

Who Watches The Watchmen?

The original Latin phrase is Quis custodiet ipso custodes? and its history is interesting by itself. You can find more about it at this page.

However, what I mean in the title is a question of who watches the Watchmen movie. Apparently more than 10 million people, including my wife and I, did in the first few days.


Some observations about the movie:

1. It ROCKS!

2. It was very well adapted from the original 12-issue comic book series which is one of the best comics ever.

3. My wife likes it too.

4. I'm old enough that the beautiful young actress I remember from my youth (Carla Guggino) plays the mother of the female lead in the movie. Carla is actually two years younger than I am. She is also the mother in Spy Kids movies.

5. Human should strive to be Dr. Manhattan in the next few centuries.

6. This movie is not for young children. Way too violent for kids.

7. The director Zack Snyder's other movies include Dawn of the Dead (2004) and 300, both of which I like a lot.

8. The actors who play Rorschach and Nite Owl II are both in another excellent film, Little Children. When I say it's excellent, I mean that it's already excellent even if the beautiful Jennifer Connelly and the beautiful, nude Kate Winslet didn't appear in the movie. If you are older than 25, you might find it excellent too. (Warning, the zone-3 DVD sold in Thailand censors a lot of things, so go with other source for better viewing experience.)

Sunday, March 08, 2009

คำอวยพรโดยธัชธีญา


วันที่ 8 มีนาคมเป็นวันเกิดอาเก๋ เด็กๆเลยคุย (แบบเห็นหน้าผ่าน Internet) กับอาเก๋ด้วย Skype เพราะอาเก๋อยู่ที่ New York

ธัชธีญาอวยพรอาเก๋ว่า "ขอให้อาเก๋แก่ตาย" แล้วหัวเราะกิ๊กกั๊ก

ป๊ะป๊า และอากิ๊กนึกว่าฟังผิดเลยถามธีญาให้พูดอีก ธีญาก็อวยพรเหมือนเดิมว่า "ขอให้อาเก๋แก่ตาย" แล้วหัวเราะอีก

อากิ๊กคิดได้เลยถามธีญาว่าแปลว่าให้อาเก๋อยู่นานๆใช่ไหม ธัชธีญาก็บอกว่า "ใช่ อาเก๋อยู่นาน ให้อาเก๋แก่ตาย" แล้วหัวเราะกิ๊กกั๊ก

Weird sense of humor, she has, hmm?

ป.ล. ภาพธัชธีญามาจากอัลบั้มพุทธมณฑลเมื่อ 5 มีนาคม

Friday, March 06, 2009

Mission วิดพื้นอาทิตย์ที่ห้า (Ode To Joy!)

(ต่อจาก "Mission วิดพื้นอาทิตย์ที่สี่ (เจ๊งนิดหน่อย)" ศุกร์ที่แล้ว ทั้งซีรี่ส์กด label pushup)

ผมเรียนรู้ว่าความลับอย่างหนึ่งของการมีความสุขก็คือไม่คาดหวังอะไรมาก เวลามีอะไรดีๆเกิดขึ้นจะทำให้เป็นสุขมากกว่าปกติ วันนี้เป็นอีกวันที่ผมเป็นสุขด้วย surprises หลายเรื่อง

อย่างแรก ตอนเช้าชั่งน้ำหนักได้ดังนี้ครับ


น้ำหนักผมไม่เคยต่ำกว่า 100 กิโลมาประมาณ 5 ปีได้แล้ว แสดงว่าตั้งแต่ผมเริ่มออกกำลังกายด้วยการวิดพื้น และเลิกทานขนมดึกๆ น้ำหนักลดไปสัปดาห์ละประมาณกิโล ด้วยอัตรานี้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 ผมก็จะมีน้ำหนักเป็น 0 กิโลแน่นอน (ขอล้อพวกชอบทำนายตามเทรนด์หน่อยนะครับ รำคาญเวลาพวกเขาจ้อบนทีวี ทำยังกะรู้จริงๆ)

กลับมาเรื่องวิดพื้นดีกว่า หลังจากอาทิตย์ที่สี่ ผมต้องทดสอบด้วย exhaustion test ดูว่าทำได้มากที่สุดกี่ครั้ง ปรากฎว่าทำได้ 44 ครั้ง ก็เลยต้องทำคอลัมน์ขวาสุดของอาทิตย์ที่ห้า

ผมเริ่มอาทิตย์ที่ห้าด้วยใจหดหู่ คิดว่าไม่มีทางทำสำเร็จแน่นอน เพราะทั้งจำนวนครั้งและจำนวนเซ็ทดูมากเหลือเกิน วันจันทร์เขาให้ทำ 36, 40, 30, 24, และอย่างน้อย 40 ครั้ง ผมก็เริ่มสอบตกเลย ทำได้ 36, 40, 30, 24, 34 (<-ตก) แต่แถมอีกเซ็ทได้อีก 12 ครั้งตอนจบ แล้วไปเล่นแบดประจำสัปดาห์กับน้องๆที่ office ปรากฏว่า reflex ทำงานเหมือนเดิม แต่ตบแล้วลูกช้ากว่าปกติมาก

วันอังคารแขนและหน้าอกเจ็บนิดหน่อย ในใจก็คิดว่าน่าจะดี มีการพัฒนากล้ามเนื้อบ้าง

วันพุธต้องทำ 19, 19, 22, 22, 18, 18, 22, และอย่างน้อย 45 ครั้ง ก็คิดว่าเจ็ดเซ็ทแรกน่าจะทำได้ ก็ทำได้จริงๆแต่รู้สึกว่าแรงจะหมดก่อนจะต้องทำเซ็ทสุดท้าย เลยพักนานกว่าที่เขากำหนดหน่อยเป็นประมาณ 2 นาที แล้วเริ่มทำเซ็ทสุดท้าย พอทำได้ถึง 35 ก็เริ่มคิดว่า ในประวัติศาสตร์มีคนวิดพื้นแล้วตายกี่คนเนี่ย สิบครั้งต่อมาเป็นการวิดที่เชื่องช้าและทรมานอย่างยิ่ง พอถึง 45 ก็นอนแปะ หัวเราะฮ่าๆว่าข้าพเจ้ายังไม่ตายแฮะ พังพาบอยู่พักหนึ่งก็แถมได้อีก 12 ครั้ง วันพฤหัสแขนและหน้าอกไม่ยักเจ็บ

วันนี้วันศุกร์ เขาให้ทำ 20, 20, 24, 24, 20, 20, 22, และอย่างน้อย 50 ครั้งก็กลืนน้ำลายเอื๊อกว่าจะรอดไหมเนี่ย เจ็ดเซ็ทแรกเนี่ยคงทำได้อยู่หรอก แต่เซ็ทสุดท้ายอย่างน้อย 50 เนี่ยน่าจะมีปัญหา เจ็ดเซ็ทแรกผ่านไปได้ตามปกติ แถมรู้สึกไม่เหนื่อยเท่ากับวันพุธแฮะ อย่างนี้ก็มีลุ้นสิ ผมค้นพบว่าถ้าผมได้มองเงาลางๆของตัวเองในกระจกหน้าต่างแล้วมีกำลังใจมากขึ้น ก็เลยค่อยๆทำไป พอได้ 45 ล่ะคุณเอ๋ย มี Soundtrack เพลงในหัวดังสนั่นเลย แน่นอนต้องเป็นช่วง climax ของ Ode To Joy (Symphony No. 9 ของ Beethoven) เซ็ทสุดท้ายทำได้ 52 แล้วแถมได้อีก 20 และ 15 ครั้งหลังจากพัก และนี่เป็น surprise อีกอันที่ทำให้ผมมีความสุข


มี surprise อีกอันที่เกี่ยวกับผลงานของเด็ก ป. 1 ที่ผมมีโอกาสไปสอนวิทยาศาสตร์ แต่ผมว่าเขียนเรื่องนั้นในอีก post ดีกว่า

ถ้าท่านไม่แน่ใจว่า Ode To Joy ทำนองเป็นอย่างไร ดูคลิปนี้เลยครับ ผมว่าเขาทำเจ๋งดี (ถ้าไม่เห็นคลิปกดลิงค์นี้นะครับ ถ้าคลิปกระตุก ให้กด pause ให้คลิปโหลดจนเสร็จก่อน แล้วกด play นะครับ)


Wednesday, March 04, 2009

It's Time For Aor's Newest Tabblo


Yes, folks. Aor just published her newest Tabblo. This one is Titus' Phys Ed Demo Day in which Titus class showed us what they have been learning in physical education. I found "E-Ga-Fug-Khai" (อีกาฟักไข่) very entertaining.

บทความแนะนำ (อีกแล้ว): ช่วงเวลาปิดเทอม

ย้ายไป http://witpoko.com/?p=308 แล้วครับ