Tuesday, October 20, 2009

How Adsense Was Born

I stumbled on this interesting account of how Google's ubiquitous Adsense (the ads from Google that you see everywhere) was born. Humans are not smart enough to predict most things, so one way to see if anything works is to actually make a prototype and see.

Monday, October 19, 2009

เรื่องผีๆ: เจอดีที่เขาใหญ่

ผมกลัวผีครับ

ผมค่อนข้างแน่ใจมากๆว่าไม่มีผีจริงๆหรอก (ถ้าจะให้พนันคงจะต่อสัก 1000:1 ว่าไม่มี) แต่สมองส่วนขี้กลัวถูกโปรแกรมตั้งแต่เป็นเด็กเล็กๆว่าให้กลัวผี ดังนั้นเวลาดูหนังผีจะรู้สึกเสียวสันหลังและขนลุกที่ต้นคอถ้าหนังทำบรรยากาศน่ากลัว (ผมเคืองหนังเรื่อง The Sixth Sense มากกว่าหนังผีอื่นๆ ที่ดันบอกว่าเวลามีผีอยู่ด้วยในห้อง ห้องจะเย็นและเราจะขนหัวลุก ทำให้กลัวไปกันใหญ่)

ผมมีสมมุติฐานว่าคนที่บอกว่าเคยเห็นผีน่าจะเป็นเพราะภาพลวงตา หรือเสียงลวงหูหรือสมองลวงตัวเอง เพราะว่าใจพยายามอธิบายข้อมูลแปลกๆว่าเกิดจากผี ไม่ใช่เพราะสมอง ตา หู ทำงานผิดพลาดหรือเกิดจากปรากฎการณ์ธรรมชาติอื่นๆที่เราไม่รู้ ดังนั้นคนกลัวผีจึงมีโอกาสเจอ "ผี" มากกว่าคนไม่กลัวผี เนื่องจากผมอยากรู้ให้แน่ใจว่าผีมีหรือเปล่า ดังนั้นเวลาผมเจอเงาแปลกๆ หรือเสียงแปลกๆผมจึงพยายามหาว่าต้นตอเกิดจากอะไร และยังไม่เคยพบผีสักที

ทุกครั้งที่ผมไปเขาใหญ่ผมจะเห็นคนจุดธูปบูชาศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ผมจึงฝากในใจว่าถ้ามีผีในป่าขอให้มาปรากฎให้ผมเห็นชัดๆด้วย เพราะมีคนบอกว่ามีผีในป่าเยอะ แม้ว่าผมจะกลัวผีมาก แต่ผมอยากรู้อยากเห็นมากกว่า และดูจากอัตราการตายของประชากร คิดว่าการตายจากการถูกผีหลอกไม่น่าจะอันตรายนัก เพราะอัตราการตายต่ำกว่าจมน้ำ ฟ้าผ่า หรือเป็นโรคอ้วน คิดชั่งใจดูแล้วตัดสินใจว่า ถึงจะกลัวสุดขีดแต่รอดตายและรู้แน่นอนว่ามีผีจริงๆ น่าจะคุ้ม

วันเสาร์ที่ผ่านมาผมขึ้นไปเขาใหญ่กับภรรยาและธัชธีญา เพื่อไปรับธีธัชที่ไปแคมป์กับโรงเรียนบ้านพลอยภูมิในอาทิตย์ที่ผ่านมา จะค้างหนึ่งคืนและกลับในวันอาทิตย์ คราวนี้ก็เช่นเคย อธิษฐานเวลาผ่านศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่่ว่าถ้ามีผีจริงขอให้แสดงตัวให้ผมรู้ด้วย คราวนี้ผมจะต้องนอนคนเดียวในห้องพัก เพราะตอนแรกจองห้องไว้ให้แม่และน้องของภรรยา แต่แผนเปลี่ยนห้องเลยว่าง และลูกๆและภรรยาจะนอนด้วยกันที่ห้องรวมของโรงเรียนและผมต้องแยกไปนอนที่ห้องว่างนั้น ผมคิดว่าเวลาอยู่คนเดียว ถ้าผีมีจริงน่าจะมาเยี่ยมง่ายขึ้น (ซึ่งผมก็คิดเป็นตุเป็นตะไปเองเพราะผมย่อมไม่รู้นิสัยของผี แต่สังเกตว่าคนที่เล่าว่าเจอผี มักจะอยู่คนเดียวมากกว่าอยู่ในกลุ่มใหญ่)

หลังจากกิจกรรมวันเสาร์เสร็จสิ้นแล้ว ผมก็ลาภรรยาและลูกๆแล้วขับรถไปยังห้อง แปรงฟันเสร็จก็เปิดคอมพิวเตอร์ดู Monsters vs. Aliens จนจบและเริ่มนอนเมื่อเกือบ 4 ทุ่มเพราะต้องตื่นตีห้า

ตอนกลางดึก(มารู้ทีหลังว่าเกือบตีสอง)ก็เกิดเรื่อง ผมเริ่มฝันว่ามีอะไรที่มองไม่เห็นมาหยิกแขนซ้ายให้เจ็บยิบๆๆ เจ็บตั้งแต่มือไปจนถึงข้อศอก เจ็บจนทนไม่ไหวผมก็ตื่นขึ้นมา แขนก็ยังไม่หายเจ็บ ผมคิดว่าเอาละเว้ย เจอผีแหงๆ รีบเปิดไฟดูทันที

ผมเห็นตัวการชัดเจนเลยครับ เรียงอยู่กันเป็นแถวข้างเตียงเลย มดดำตัวเล็กๆครับ พากันเดินข้ามเตียงผมไปยังอีกฟาก แถวมดบางส่วนยังอยู่บนแขนซ้ายผม และบางตัวก็กำลังกัดผมอย่างเมามัน ผมโมโหเลยปัดตายไปหลายตัว มาคิดทีหลังว่าไม่น่าไปทำเขาเลย เรามาอยู่ในบ้านเขาแท้ๆ แถมไปทำเขาตายอีก เหมือนเราเป็น Aliens มาบุกโลกมดยังไงยังงั้น

โอเค สรุปผลการทดลอง: คราวนี้ยังไม่พบว่ามีผีนะครับ แสดงว่า:
  1. ผีอาจมีจริงแต่เราเรียกเขาไม่ถูกวิธี อาจจะใช้วิธีคิดในใจไม่ได้ หรือไปบอกคนผิดเช่นเจ้าพ่อศาลเขาใหญ่ไม่มีหน้าที่ไปเรียกผีให้เราดู หรือ
  2. ผีอาจมีจริงแต่เขายุ่งเลยไม่รู้่ว่าจะมาเจอเราทำไม หรือ
  3. ผีอาจมีจริง รู้ว่าเราอยากพบ แต่เดินทางมาหาไม่ทัน หรือ
  4. ผีอาจมีจริง แต่ไม่มาเจอกับเราเนื่องจากสาเหตุอื่นๆ หรือ
  5. ผีไม่มีจริง
ผมก็คงความเชื่อว่าไม่น่าจะมีผีต่อไป แต่อัตราส่วนต่อรองเพิ่มขึ้นอีกนิด (จาก 1000:1 เป็น 1000+ : 1) ตามหลักการ Bayesian Inference เปี๊ยบ (ผมเคยพูดถึงไว้ในอดีตครับ) แต่ผมก็กลัวผีแบบไม่มีเหตุผลเหมือนเดิม (ผมกลัวอะไรแบบไม่มีเหตุผลหลายอย่างครับ เช่นกลัวฉลามในสระว่ายน้ำเพราะไปดู Jaws ตอนเด็กๆ หรือกลัวจิ้งจกมากกว่ากลัวงูเพราะเคยจับจิ้งจกตอนเด็กๆแล้วหางเขาหลุดติดมือ เป็นต้น)

ถ้าใครมีหลักฐานแน่นหนา น่าเชื่อว่ามีผีจริงๆกรุณาบอกผมด้วยนะครับ ถ้าผีมีจริงจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากเพราะว่ามีอะไรที่เราไม่รู้อีกเรื่องเบ้อเริ่มเลย มี Nobel Prizes หลายอันในการศึกษาแน่ ผมชอบสิ่งมหัศจรรย์ยิ่งแปลกยิ่งดี แต่ต้องมีหลักฐานดีๆนะครับ พวกหลอกลวงชาวบ้าน หรือคิดเป็นตุเป็นตะไปเองแล้วโมเมเอา ไม่น่าสนใจ ผมคิดว่าคนที่ชอบบอกคนอื่นๆว่า "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่" ไม่มีประโยชน์ต่อสังคมนะครับ เพราะเป็นตัวแพร่ความงมงายในหมู่คนวงกว้างต่อไป ถ้าเราไม่รู้เรื่องอะไรหรือไม่เชื่อเรื่องอะไร ถ้าเราสนใจเราควรจะคิดหาทางตรวจสอบว่าความจริงเป็นอย่างไรนะครับ ลูกหลานในอนาคตจะได้รู้มากกว่าพวกเรา

เท่าที่เห็นข้อมูลสนับสนุนที่ผ่านมา ผมยังไม่เชื่อว่ามี ผี ไดโนเสาร์(ไม่รวมนก)ที่ยังมีชีวิตอยู่ มนุษย์ต่างดาวเยือนโลก Bigfoot หมอดูที่รู้อนาคต ผู้วิเศษอย่าง Harry Potter ฯลฯ นะครับ แม้ว่าในใจผม ผมอยากจะให้สิ่งเหล่านี้มีจริงๆก็ตาม เพราะถ้ามีจริง ก็แสดงว่าธรรมชาติยิ่งแปลกประหลาดกว่าที่เราคิดอีกเยอะ :-D

ปล.

1. เสียงสัตว์แปลกๆที่เราไม่คุ้นเคยในป่ามีมากมายครับ ถ้าเสียงน่ากลัวอาจทำให้เราคิดว่าเป็นผีก็ได้

2. มีนักวิทยาศาสตร์คิดว่าในสถานที่ในอังกฤษที่ว่ากันว่าผีดุนั้น สามารถอธิบายได้จากการที่มีเสียงความถี่ต่ำกว่าที่เราได้ยิน (infrasound) ทำให้เรารู้สึกอึดอัด รู้สึกว่ามี "อะไร" บางอย่างอยู่รอบๆครับ นักวิทย์เหล่านี้สามารถเปิดและปิดความรู้สึกผีหลอกด้วยการเปิดปิดลำโพงที่ส่งเสียง infrasound ด้วยครับ

3. ถ้าท่านชอบเรื่องราวทำนองวิทยาศาสตร์ผมมี blog posts หลายอันเหมือนกันครับ

Thursday, October 15, 2009

I Learned Something New Today: Automatic Differentiation


After 28 years of (amateurishly and rather clumsily) programming computers and 25 years of using calculus, I just found out about a method to calculate numerical derivatives exactly (up to numerical accuracy.)

I knew how to do numerical differentiation based on approximating derivatives with finite differences which incurs inexactness due to truncating infinite series, but I never thought about how to get exact numerical results. Luckily someone else did, and we got the automatic differentiation technique.

Tuesday, October 13, 2009

A Research I Really Want To Be True

Someone pointed this research summary to me. It says that if we restrict our food to 20-50% of normal calories on one day and we eat till we are full the next day, we gain a lot of health benefits.

The excerpt:

"Since May 2003 we have experimented with alternate day calorie restriction, one day consuming 20-50% of estimated daily caloric requirement and the next day ad lib eating, and have observed health benefits starting in as little as two weeks, in insulin resistance, asthma, seasonal allergies, infectious diseases of viral, bacterial and fungal origin (viral URI, recurrent bacterial tonsillitis, chronic sinusitis, periodontal disease), autoimmune disorder (rheumatoid arthritis), osteoarthritis, symptoms due to CNS inflammatory lesions (Tourette's, Meniere's) cardiac arrhythmias (PVCs, atrial fibrillation), menopause related hot flashes."

If this is true, I will starve one day and go to a buffet the next day and live longer! I'm sure that after the one starving day, the food at the buffet will taste even better :-D

Monday, October 05, 2009

ฮีโร่ของผม: วีระ สมความคิด

วันนี้พบบทความเกี่ยวกับคุณวีระ สมความคิด ประชาชนคนธรรมดาที่ทำหน้าที่ต่อสู้คอรัปชันดีกว่าพวกเฮงซวยในสภาอย่างมากมาย เลยมาบันทึกไว้เผื่อจะมีคนเข้าไปอ่านและเข้าใจเขามากขึ้น


Saturday, October 03, 2009

สังฆราช = ?

มีข่าวทำบุญวันเกิดพระสังฆราชครบรอบ 96 ปีบนทีวี (จริงๆแล้วคำศัพท์ที่ถูกต้องควรจะเป็น วันคล้ายวันประสูติในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกครบ 96 พรรษา แต่ลูกผมได้ยินว่าข่าวเกี่ยวกับสังฆราชแล้วถาม ผมจึงใช้คำที่เด็กๆเข้าใจ)

ธีธัช: สังฆราชคืออะไรครับ
พ่อโก้: พระสังฆราชคือพระตำแหน่งสูงสุดในประเทศไทย
ธีธัช: (ทำหน้างงๆ)
พ่อโก้: พระสังฆราชเป็นหัวหน้าของพระไงล่ะ
ธีธัช: (ทำหน้างงๆ)
อากิ๊ก: พระสังฆราชมีสมณศักดิ์สูงที่สุด
ธีธัช: (ทำหน้างงๆ)
พ่อโก้: ถ้าเจไดคือพระ โยด้าคือพระสังฆราช
ธีธัช: อ๋อ

แต่วิกิพีเดียว่าไว้อย่างนี้นะครับ

ปล. ธีธัชอายุ 6 ขวบแต่ดู Star Wars ครบ 6 Episodes แล้ว แถมยังจำตัว Nute Gunray กับ Rune Haako ที่พ่อโก้จำไม่ได้ (แต่เคยเล่าให้ฟังจากหนังสือ Star Wars Encyclopedia) พ่อโก้ไม่รู้ว่าจะห่วงหรือภูมิใจดี

There Might Be A Female Monk From My Family


Tatia likes to dress up as a monk. Aor documented this in her newest Tabblo.

I've been telling my kids that they should not pay respect to people dressing up in yellow monk robes automatically because there are quite a few people who earn money by pretending to be monks. When they are a bit older, I will tell them the generalization that we shouldn't pay respect to people with impressive titles or positions automatically either.