Things that I find interesting, mostly about nature, science, mathematics, programming, and Thailand's fight against corruption.
Tuesday, December 27, 2011
Thursday, December 08, 2011
การค้นพบของธัญญา
วันนี้ธัญญ่าเอาเยลลี่สตรอเบอร์รี่สีแดงที่ช่วยกันทำกับพี่ๆเมื่อวันเสาร์ออกมาทาน
เธอเอาช้อนพลาสติกสีฟ้าตัก แต่เธอไม่ยอมเอาเข้าปากเสียที จับช้อนเอียงไปมาน่ากลัวหกเป็นอย่างยิ่ง ตาเธอก็จับจ้องอยู่ที่ช้อนที่มีเยลลี่นั้นตลอดเวลา
พ่อแม่และป้านิดต่างพากันตกใจ กลัวเธอทำเยลลี่ตก บอกว่าอย่าเอียงช้อน แต่เธอก็ไม่ฟัง
แล้วเธอก็บอกว่า "ดูสิคะ เยลลี่สีแดงบนช้อนสีฟ้ากลายเป็นสีม่วงค่ะ สีฟ้าผสมสีแดงกลายเป็นสีม่วงค่ะ"
ช่างสังเกตใช้ได้นะเจ้าเปี๊ยก :-)
Wednesday, October 12, 2011
คำถามของธัชธีญา
ธัชธีญา แม่ และพ่อ |
เมื่อสักสัปดาห์ก่อนเธอถามแม่ว่า "มาม้าคะ เวลาคนแต่งงานกัน ร่างกายรู้ได้อย่างไรว่าต้องมีลูกออกมาคะ"
ขณะที่แม่และพ่อกำลังคิดวิธีตอบนั่นเอง พี่ธีธัช(อายุแปดขวบ)ก็เสนอความคิดเห็นว่า "พี่ว่ามันต้องเกี่ยวกับการผสมพันธุ์แน่เลย แต่พี่ไม่เข้าใจว่าสเปิร์มมันไปเจอกับไข่ได้ยังไง"
ธีธัช |
วันนี้ธัชธีญามีอีกคำถาม "คนคนแรกคือใครคะ เขามีพ่อแม่หรือเปล่า"
ผมได้โอกาสเลยเล่าเรื่องเกี่ยวกับการวิวัฒนาการว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกมีความเกี่ยวพันเป็นญาติกัน บรรพบุรุษของเราเมื่อสักล้านปีที่แล้วหน้าตาคล้ายๆลิง ถ้าสักหกสิบล้านปีที่แล้วก็หน้าตาคล้ายกระรอก ถ้ากลับไปสัก 300 ล้านปีบรรพบุรุษเราจะหน้าตาคล้ายปลา ไปเรื่อยๆ ถ้ากลับไปนานเป็นสามสี่พันล้านปีบรรพบุรุษเราจะหน้าตาคล้ายๆแบคทีเรีย
ในระยะสั้นๆไม่กี่พันปีคนยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ถ้าให้เวลานานเป็นล้านปีการเปลี่ยนแปลงจะเห็นได้ชัด มันคล้ายๆกับเราส่องกระจกทุกวันเราจะไม่รู้สึกว่าหน้าตาเราเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้าเอารูปจากหลายๆปีมาดูจะเห็นได้ว่าหน้าตาเราเปลี่ยนไปมาก
ดังนั้นสรุปได้ว่าไม่มีคนคนแรกหรอก เพราะเราเป็นจุดๆหนึ่งในกิ่งก้านสาขาของสิ่งมีชีวิตที่เป็นญาติกันทั้งหมดบนโลก เราได้แต่บอกว่าถ้ากิ่งก้านไม่ห่างกันมาก สิ่งมีชีวิตบนกิ่งก้านนั้นก็จะมีความเกี่ยวพันกันมากหน่อย เรามีบรรพบุรุษที่คล้ายๆเราที่เราเรียกว่าเป็นคนได้สนิทปากถ้าเรามองกลับไปไม่นานนัก ถ้ามองกลับไปนานมากเกินเราก็จะเรียกว่าเป็นสัตว์ประเภทอื่น แต่ขอบเขตว่าแค่ไหนจะเรียกว่าเป็นคนนั้น เป็นเรื่องที่เราเลือกจะเรียกเอง ธรรมชาติไม่เกี่ยวและไม่แคร์เราด้วย
ท่านที่สนใจเรื่องธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ผมแนะนำหนังสือหรือ iPad App ที่ชื่อว่า The Magic of Reality: How We Know What's Really True นะครับ มีคำถามและคำตอบ และทำไมเราถึงคิดว่าคำตอบเป็นคำตอบที่ถูกต้องและเป็นจริงครับ
นี่คือวิดีโอคลิปสำหรับเวอร์ชั่น iPad ครับ ผมซื้อมาแล้ว ได้ใช้ตอบปัญหาลูกเรื่องคนคนแรกเลย :-)
ปล. เมื่อวานนี้ธัญญา(อายุเกือบสี่ขวบ)เลือกหนังสือนี้จากงานหนังสือด้วยครับ :-)
หนังสือที่ธัญญาเลือก |
ธัญญาและกิจกรรมที่เธอชอบมาก |
Tuesday, September 06, 2011
Sunday, September 04, 2011
เลขท้ายสองตัวที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากโพสท์เรื่องใบ้เลขเด็ดที่ผมเขียนไปครับ ผมลองไปดูว่าเลขท้ายสองตัวที่ออกมา 158 ครั้งที่ผ่านมาออกเลขไหนมากเลขไหนน้อยครับ ผลที่ได้เป็นดังนี้สำหรับเลข 00, 01, 02, ..., 98, 99:
เลขท้ายสองตัวเป็นไปได้ทั้งหมด 100 แบบ ตั้งแต่ 00 ไปถึง 99 เมื่อดูในข้อมูล 158 งวดถ้าทุกตัวเลขออกเท่าๆกันก็ต้องออก 1.58 ครั้ง (ที่วาดเป็นเส้นประ) แต่ในความเป็นจริงเลขบางตัวออกมากกว่า 1.58 ครั้ง เลขบางตัวออกน้อยกว่า 1.58 ครั้ง แต่การกระจายรอบๆ 1.58 คล้ายๆกับเป็นเลขที่สุ่มออกมา ไม่สามารถชี้ว่าเลขท้ายสองตัวไหนออกมามากหรือน้อยอย่างผิดปกติครับ (เพราะจำนวนที่เราดูมันน้อย มีแค่ 158 ตัว จำนวนครั้งที่มากๆหรือน้อยๆมันอาจจะเกิดจากความฟลุ้คได้ง่ายๆ)
ผมดูการแจงแจงข้อมูลของตัวเลข 0-9 ในเลขท้าย 2 ตัวและเลขท้าย 3 ตัวด้วย และไม่พบว่ามีเลขไหนออกผิดปกติครับ หวยออกงวดหน้าผมคงใบ้ตัวเลขสุ่มเหมือนเดิม :-)
ปล. ตารางข้อมูลสำหรับเลขท้ายสองตัวเป็นดังนี้ครับ:
เลขท้ายสองตัวเป็นไปได้ทั้งหมด 100 แบบ ตั้งแต่ 00 ไปถึง 99 เมื่อดูในข้อมูล 158 งวดถ้าทุกตัวเลขออกเท่าๆกันก็ต้องออก 1.58 ครั้ง (ที่วาดเป็นเส้นประ) แต่ในความเป็นจริงเลขบางตัวออกมากกว่า 1.58 ครั้ง เลขบางตัวออกน้อยกว่า 1.58 ครั้ง แต่การกระจายรอบๆ 1.58 คล้ายๆกับเป็นเลขที่สุ่มออกมา ไม่สามารถชี้ว่าเลขท้ายสองตัวไหนออกมามากหรือน้อยอย่างผิดปกติครับ (เพราะจำนวนที่เราดูมันน้อย มีแค่ 158 ตัว จำนวนครั้งที่มากๆหรือน้อยๆมันอาจจะเกิดจากความฟลุ้คได้ง่ายๆ)
ผมดูการแจงแจงข้อมูลของตัวเลข 0-9 ในเลขท้าย 2 ตัวและเลขท้าย 3 ตัวด้วย และไม่พบว่ามีเลขไหนออกผิดปกติครับ หวยออกงวดหน้าผมคงใบ้ตัวเลขสุ่มเหมือนเดิม :-)
ปล. ตารางข้อมูลสำหรับเลขท้ายสองตัวเป็นดังนี้ครับ:
ตัวเลข | จำนวนครั้งที่ออก |
---|---|
00 | 1 |
01 | 1 |
02 | 1 |
03 | 2 |
04 | 0 |
05 | 5 |
06 | 2 |
07 | 1 |
08 | 1 |
09 | 2 |
10 | 3 |
11 | 3 |
12 | 4 |
13 | 1 |
14 | 1 |
15 | 1 |
16 | 0 |
17 | 2 |
18 | 1 |
19 | 0 |
20 | 1 |
21 | 0 |
22 | 2 |
23 | 1 |
24 | 2 |
25 | 3 |
26 | 3 |
27 | 2 |
28 | 1 |
29 | 2 |
30 | 1 |
31 | 0 |
32 | 1 |
33 | 2 |
34 | 2 |
35 | 2 |
36 | 2 |
37 | 0 |
38 | 0 |
39 | 0 |
40 | 0 |
41 | 3 |
42 | 1 |
43 | 3 |
44 | 3 |
45 | 2 |
46 | 1 |
47 | 0 |
48 | 3 |
49 | 2 |
50 | 2 |
51 | 1 |
52 | 0 |
53 | 1 |
54 | 1 |
55 | 2 |
56 | 2 |
57 | 0 |
58 | 2 |
59 | 2 |
60 | 0 |
61 | 1 |
62 | 2 |
63 | 1 |
64 | 2 |
65 | 1 |
66 | 3 |
67 | 3 |
68 | 2 |
69 | 4 |
70 | 0 |
71 | 3 |
72 | 0 |
73 | 2 |
74 | 0 |
75 | 1 |
76 | 3 |
77 | 1 |
78 | 0 |
79 | 1 |
80 | 2 |
81 | 4 |
82 | 0 |
83 | 0 |
84 | 0 |
85 | 4 |
86 | 1 |
87 | 2 |
88 | 3 |
89 | 0 |
90 | 0 |
91 | 1 |
92 | 2 |
93 | 4 |
94 | 2 |
95 | 2 |
96 | 4 |
97 | 4 |
98 | 2 |
99 | 1 |
Friday, September 02, 2011
ใบ้เลขเด็ด
เมื่อวานเป็นวันหวยออก ผู้คนใน Facebook ต่างกล่าวกันถึงหวยตั้งแต่เช้า ผมจึงร่วมสนุกด้วยโดยการให้เลขเด็ดซะเลย โดยผมเลือกสุ่มเลขมาสี่ตัวเป็น 0 3 8 7:
พอดีมีคนถามว่ามีหลักการอะไรไหมในการให้ตัวเลข ผมก็บอกไปว่าผมเดามั่วเลย แต่ถ้าถูกคนก็จะจำได้ พอผมกลับบ้านผมเลยสงสัยว่าในตัวเลข 0-9 เนี่ย มีตัวเลขไหนออกมากกว่าชาวบ้านไหม ผมเลยไปโหลดเลขหวยที่ออกย้อนหลังไปถึง 30 ธันวา 2548 แล้วมานับดูว่า 0 ออกกี่ครั้ง 1 ออกกี่ครั้ง ไปเรื่อยๆจนถึง 9 ออกกี่ครั้ง
ผมได้ตัวเลขมาทั้งหมด 159,580 ตัว ดังนั้นถ้าไม่มีเลขไหนออกมากกว่าเลขอื่นเป็นพิเศษแล้ว เลข 0-9 ก็ควรออกมาไม่ห่างจาก 15,958 ครั้งนัก ผลจากการนับคือ
แม้ว่าบางเลขจะออกมาก บางเลขจะออกน้อย แต่จำนวนครั้งที่ออกก็ใกล้เคียงกับ 15,958 ไม่มีเลขใดออกมากหรือออกน้อยเป็นพิเศษครับ
กราฟจำนวนครั้งดูเป็นอย่างนี้ครับ (เส้นประคือ 15,958 และโชว์ช่วงระหว่าง 15,000 ถึง 16,300 จะได้เห็นชัดๆ ถ้าโชว์ตั้งแต่ 0 ถึง 16,300 จะเห็นจุดต่างๆทาบเส้นประหมดเลย):
*** * **** * ****** *********
ปล. รายละเอียดเผื่อมีใครอยากทำคล้ายๆกันบ้าง
1. สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องสถิติ Pearson's chi-square เป็นดังนี้ครับ (ผมป้อนเข้า R แทน Mathematica เพราะกำลังทดลองใช้ R ทำงานบริษัทอยู่ครับ):
> chisq.test(c(15863, 15929, 16097, 15959, 15770, 16009, 15893, 15881, 16050, 16129), p=c(0.1,0.1,0.1,0.1,0.1,0.1,0.1,0.1,0.1,0.1))
Chi-squared test for given probabilities
data: c(15863, 15929, 16097, 15959, 15770, 16009, 15893, 15881, 16050, 16129)
X-squared = 7.2059, df = 9, p-value = 0.6157
2. ผมไปโหลดหน้าเว็บผลล็อดเตอรี่จาก http://lotto.mthai.com/ ครับ
พอดีมีคนถามว่ามีหลักการอะไรไหมในการให้ตัวเลข ผมก็บอกไปว่าผมเดามั่วเลย แต่ถ้าถูกคนก็จะจำได้ พอผมกลับบ้านผมเลยสงสัยว่าในตัวเลข 0-9 เนี่ย มีตัวเลขไหนออกมากกว่าชาวบ้านไหม ผมเลยไปโหลดเลขหวยที่ออกย้อนหลังไปถึง 30 ธันวา 2548 แล้วมานับดูว่า 0 ออกกี่ครั้ง 1 ออกกี่ครั้ง ไปเรื่อยๆจนถึง 9 ออกกี่ครั้ง
ผมได้ตัวเลขมาทั้งหมด 159,580 ตัว ดังนั้นถ้าไม่มีเลขไหนออกมากกว่าเลขอื่นเป็นพิเศษแล้ว เลข 0-9 ก็ควรออกมาไม่ห่างจาก 15,958 ครั้งนัก ผลจากการนับคือ
ตัวเลข | จำนวนครั้งที่ออก |
---|---|
0 | 15863 |
1 | 15929 |
2 | 16097 |
3 | 15959 |
4 | 15770 |
5 | 16009 |
6 | 15893 |
7 | 15881 |
8 | 16050 |
9 | 16129 |
แม้ว่าบางเลขจะออกมาก บางเลขจะออกน้อย แต่จำนวนครั้งที่ออกก็ใกล้เคียงกับ 15,958 ไม่มีเลขใดออกมากหรือออกน้อยเป็นพิเศษครับ
กราฟจำนวนครั้งดูเป็นอย่างนี้ครับ (เส้นประคือ 15,958 และโชว์ช่วงระหว่าง 15,000 ถึง 16,300 จะได้เห็นชัดๆ ถ้าโชว์ตั้งแต่ 0 ถึง 16,300 จะเห็นจุดต่างๆทาบเส้นประหมดเลย):
*** * **** * ****** *********
ปล. รายละเอียดเผื่อมีใครอยากทำคล้ายๆกันบ้าง
1. สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องสถิติ Pearson's chi-square เป็นดังนี้ครับ (ผมป้อนเข้า R แทน Mathematica เพราะกำลังทดลองใช้ R ทำงานบริษัทอยู่ครับ):
> chisq.test(c(15863, 15929, 16097, 15959, 15770, 16009, 15893, 15881, 16050, 16129), p=c(0.1,0.1,0.1,0.1,0.1,0.1,0.1,0.1,0.1,0.1))
Chi-squared test for given probabilities
data: c(15863, 15929, 16097, 15959, 15770, 16009, 15893, 15881, 16050, 16129)
X-squared = 7.2059, df = 9, p-value = 0.6157
2. ผมไปโหลดหน้าเว็บผลล็อดเตอรี่จาก http://lotto.mthai.com/ ครับ
3. ผมใช้ BeautifulSoup มาดึงข้อมูลออกจากหน้าผลล็อตเตอรี่ครับ
4. ใช้ Mathematica วาดกราฟดังนี้ครับ:
ListPlot[data, PlotStyle -> PointSize[0.02], Filling -> Axis,
PlotRange -> {15000, 16300},
AxesLabel -> {"ตัวเลข", "จำนวนครั้งที่ออก"},
Epilog -> {Dashed, Line[{{0, 15958}, {9, 15958}}]}]
Wednesday, August 31, 2011
Saturday, August 27, 2011
โปรแกรมฟรีและดีสำหรับ Windows
ผมหาคอมพิวเตอร์ให้ญาติผมใช้ ก็เลยลงโปรแกรมฟรีและถูกลิขสิทธิ์ให้เขาไปใช้ด้วย ผมเขียนคำอธิบายว่าเครื่องลงโปรแกรมอะไรไว้เลยเอาบางส่วนมาไว้ที่บล็อกนี้ด้วย เผื่อจะมีประโยชน์ต่อท่านอื่นและเผื่อมีใครสมัครใช้ Dropbox ตามลิงค์ผม เราจะได้มีทีเก็บของเพิ่มกันฟรีๆด้วย ผมอยากแนะนำให้ใช้ www.ninite.com เพื่อลงโปรแกรม และแนะนำ Dropbox กับ Google Docs สำหรับเก็บเอกสารครับ เพราะ Ninite ทำให้เราไม่เสียเวลานั่งรอการลงโปรแกรมและอัพเดทง่าย และถ้าเราเก็บเอกสารไว้บน Dropbox หรือ Google Docs เวลาคอมพิวเตอร์เราต้องซ่อม หรือหาย หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่ หรือไปใช้อีกเครื่อง เราจะสามารถเข้าถึงเอกสารของเราได้ ไม่ต้องก็อปปี้ไฟล์ไปมา ข้างล่างเป็นส่วนหนึ่งที่ผมเขียนให้ญาติผมครับ โปรแกรมทั้งหมดลงได้จาก Ninite ครับ:
โปรแกรมที่ลงมาให้คือ
ผมแนะนำว่าให้ทดลองใช้ Dropbox เพื่อเก็บเอกสารการงาน เพราะเราสามารถใช้เอกสารจากคอมพิวเตอร์เครื่องไหนก็ได้ แชร์ไฟล์ให้คนอื่นก็ได้ มีแบคอัพอัตโนมัติ มีคนอธิบายการใช้ไว้ที่ http://www.i3.in.th/content/view/1927 ลองอ่านดูนะครับ สมัครใช้แบบฟรีเราจะได้้พื้นที่ 2 GB ถ้าอยากสมัครให้กดลิงค์นี้ http://db.tt/OlZhBwX คุณจะได้พื้นที่เพิ่มขึ้นอีกฟรีๆและผมก็จะได้พื้นที่เพิ่มด้วย
อีกอย่างที่อยากให้ลองคือ Google Docs คือเราสามารถสร้างเอกสารเก็บไว้ในเว็บกับ Google เลย เวลาจะให้คนอื่นดูก็แค่ส่งลิงค์ให้เขา ไม่ต้องส่งไฟล์ใหญ่ๆ และเราไม่ต้องกลัวเอกสารหายจากฮาร์ดดิสค์พังด้วย เข้าไปสมัครและใช้ได้ที่ http://www.google.com/google-d-s/intl/th/tour1.html นะครับ
ถ้าเราเก็บเอกสารไว้บน Dropbox หรือ Google Docs เวลาคอมพิวเตอร์เราต้องซ่อม หรือหาย หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่ หรือไปใช้อีกเครื่อง เราจะสามารถเข้าถึงเอกสารของเราได้ ไม่ต้องก็อปปี้ไฟล์ไปมา
โปรแกรมที่ลงมาให้คือ
- LibreOffice เป็นซอฟท์แวร์ฟรี ลิขสิทธิ์ถูกต้อง ใช้แทน Microsoft Office ได้ เวลาเซฟงานเราเลือกนามสกุลไฟล์เป็น .doc .xls ได้
- Foxit Reader ฟรี ใช้เปิดไฟล์ PDF อ่าน (แทน Adobe Acrobat)
- ImgBurn ฟรี ใช้เขียนแผ่น CD/DVD
- PDFCreator ใช้สร้างไฟล์ PDF โดยเวลาเราพิมพ์เอกสารจากโปรแกรมต่างๆ เราสามารถเลือกพิมพ์แล้วเลือก PDFCreator เป็นเครื่องพิมพ์แทนเครื่องจริงๆ เราจะได้ไฟล์ PDF ออกมา ผมแนะนำให้ส่งเอกสารที่ผู้รับไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเป็นไฟล์ PDF เสมอ (LibreOffice ไม่จำเป็นต้องใช้ PDFCreator เพราะสร้างไฟล์ PDF ได้เองอยู่แล้ว)
- Picasa ใช้เก็บและดูรูปภาพ
- Skype ใช้พูดคุยแชทผ่านคอมพิวเตอร์
- Windows Live Messenger ใช้พูดคุยแชทผ่านคอมพิวเตอร์
- Notepad++ ใช้แทน Notepad ที่มากับ Windows เผื่อต้องใช้
- VLC Media Player ใช้ดูหนังฟังเพลง
- KMPlayer ใช้ดูหนังฟังเพลง
- Launchy ใช้เปิดโปรแกรมโดยไม่ต้องไปเลือกตามเมนู แค่กดคีย์ Alt กับ Space (แป้นเว้นวรรค) พร้อมกัน จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้เราพิมพ์ชื่อโปรแกรม ปกติแค่พิมพ์ตัวอักษรตัวสองตัวก็เลือกได้แล้ว
- Microsoft Security Essential เป็นโปรแกรม anti-virus ของไมโครซอฟท์ ใช้ได้กับ Windows ถูกลิขสิทธิ์
- Paint.Net โปรแกรมวาดและแต่งภาพ ฟรี ใช้แทน Photoshop
- Google Chrome เป็นโปรแกรมท่องเว็บแทน Internet Explorer มันเร็วกว่า และน่าจะปลอดภัยกว่า
ผมแนะนำว่าให้ทดลองใช้ Dropbox เพื่อเก็บเอกสารการงาน เพราะเราสามารถใช้เอกสารจากคอมพิวเตอร์เครื่องไหนก็ได้ แชร์ไฟล์ให้คนอื่นก็ได้ มีแบคอัพอัตโนมัติ มีคนอธิบายการใช้ไว้ที่ http://www.i3.in.th/content/view/1927 ลองอ่านดูนะครับ สมัครใช้แบบฟรีเราจะได้้พื้นที่ 2 GB ถ้าอยากสมัครให้กดลิงค์นี้ http://db.tt/OlZhBwX คุณจะได้พื้นที่เพิ่มขึ้นอีกฟรีๆและผมก็จะได้พื้นที่เพิ่มด้วย
อีกอย่างที่อยากให้ลองคือ Google Docs คือเราสามารถสร้างเอกสารเก็บไว้ในเว็บกับ Google เลย เวลาจะให้คนอื่นดูก็แค่ส่งลิงค์ให้เขา ไม่ต้องส่งไฟล์ใหญ่ๆ และเราไม่ต้องกลัวเอกสารหายจากฮาร์ดดิสค์พังด้วย เข้าไปสมัครและใช้ได้ที่ http://www.google.com/google-d-s/intl/th/tour1.html นะครับ
ถ้าเราเก็บเอกสารไว้บน Dropbox หรือ Google Docs เวลาคอมพิวเตอร์เราต้องซ่อม หรือหาย หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่ หรือไปใช้อีกเครื่อง เราจะสามารถเข้าถึงเอกสารของเราได้ ไม่ต้องก็อปปี้ไฟล์ไปมา
Wednesday, August 24, 2011
Wednesday, August 10, 2011
Wednesday, August 03, 2011
Monday, August 01, 2011
Wednesday, July 27, 2011
แคลคูลัสของบาปบุญ???
ผมไปเจอเข้าครับ ทั้งเล่มมีบทสวดต่างๆที่บอกว่าถ้าสวดตามแล้วจะแก้ปัญหาแต่ละชนิดได้ ถ้าการสวดมนต์ แก้กรรม สะเดาะเคราะห์มันได้ผลจริง คนไม่น่าจะมีความทุกข์มากอย่างที่เห็นนะครับ ผมว่าการที่ของอย่างนี้แพร่หลายในสังคมบ้านเรามันคงชี้ให้เห็นถึงความสิ้นหวังและความไม่ใส่ใจแก้ไขปัญหาตามสาเหตุของแต่ละปัญหา หวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์และปาฏิหาริย์นะครับ ปัญหาก็เลยอยู่เหมือนเดิมหรือสะสมแย่ขึ้นไปอีก
ที่ติดตาผมจนต้องเอามาเล่าก็คือเจ้าตารางจำนวนบุญบาปนี่แหละครับ ผมว่ามันตลกดีที่เขากล้าเขียนแบบมั่นใจมาก
สำหรับความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ผมเคยเขียนไว้ที่ หวยกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (หรือทำไมผมควรจะหยุดรับรู้ข่าวสารบ้านเมืองไทย) และที่ เชื่อผิดๆ ซวยเพิ่มขึ้น ครับ
อย่าลืมว่าความเชื่องมงายไม่ฟรีเพราะ มีต้นทุนทางโอกาส เวลา เงิน และชีวิตครับ
Tuesday, July 26, 2011
Wednesday, July 06, 2011
Tuesday, June 28, 2011
Wednesday, June 22, 2011
Wednesday, June 15, 2011
Tuesday, June 07, 2011
Tuesday, May 31, 2011
Tuesday, May 24, 2011
Monday, May 16, 2011
หนังสือแนะนำครับ
คราวนี้ชื่อ Live & Learn โดยวรากรณ์ สามโกเศศ ครับ เป็นหนังสือรวมบทความสั้นๆน่าสนใจในหลากหลายสาขาของอาจารย์วรากรณ์ครับ แต่ละเรื่องสั้นพอที่จะอ่านได้ในไม่กี่นาที หนังสือมี 211 หน้า ราคา 180 บาทครับ
ดูสารบัญเรื่องราวต่างๆในรูปนะครับ
Wednesday, May 11, 2011
I've Just Learned About Bloom Filter
Although the algorithm was invented at about the same time that I was born, I've just understood how Bloom filter works today :-)
From Wikipedia page, the Bloom filter "is a space-efficient probabilistic data structure that is used to test whether an element is a member of a set. False positives are possible, but false negatives are not. Elements can be added to the set, but not removed (though this can be addressed with a counting filter). The more elements that are added to the set, the larger the probability of false positives."
Here's a discussion about a 22-line Python implementation of the filter.
Tuesday, April 19, 2011
Homeopathy คืออะไร และทำไมคุณไม่ควรถูกหลอกให้ซื้อ
ถาม: เขียนทำไม
ตอบ: ผมเห็นมีคนเอา"ยา"ประเภท homeopathy มาขายในประเทศไทย และอาจเป็นอันตรายได้
ตอบ: คือการรักษาทางเลือกชนิดหนึ่ง โดยให้ผู้ป่วยทานสารละลาย หรือเม็ดยาที่ทำด้วยการเจือจางสารบางชนิด การเจือจางนั้นทำอย่างยิ่งยวดจนบางครั้งไม่มีสารเหล่านั้นเหลือในสารละลายหรือเม็ดยาเลย
ถาม: Homeopathy รักษาโรคได้ไหม
ตอบ: ไม่ได้ ผลที่ได้ไม่แตกต่างกับการทานยาหลอกๆหรือฉีดนำ้เกลือหลอกๆ
ถาม: แล้วมีโทษไหม
ตอบ: โทษก็คือผู้ป่วยเสียเงินซื้อยาหลอกๆมาทานด้วยราคาแพง โทษที่รุนแรงมากขึ้นก็คือถ้าผู้ป่วยไม่ใช้วิธีรักษาที่ได้ผลทางอื่น อาการผู้ป่วยก็อาจทรุดหนักมากจนตายได้ มีผู้เก็บตัวอย่างผลเสียไว้ที่นี่
ถาม: มีอะไรตลกเป็นพิเศษไหม
ตอบ: ผู้ที่ผลิตยาพวก homeopathy เหล่านี้ จะทำการละลายสารตั้งต้นหลายรอบ โดยแต่ละรอบจะทำการเจือจาง 100 เท่า และบางครั้งทำนับสิบรอบ ดังนั้นถ้าไปหาโมเลกุลของสารตั้งต้นในรอบสุดท้ายก็จะไม่เจอแล้ว
ถาม: ความคิดบ้าๆแบบนี้มันเกิดมาได้อย่างไร
ตอบ: ความจริงอันนี้ก็ตลกอีก มันเกิดมาประมาณสองร้อยปีที่แล้วที่ความรู้ทางการแพทย์ของมนุษย์ยังมั่วอยู่มาก การรักษาหลายๆอย่างทำให้คนไข้แย่ลง เช่นการเอาเลือดออก ทำให้อาเจียรด้วยสารพิษ และวิธีประหลาดๆหลายๆอย่าง หมอ Samuel Christian Friedrich Hahnemann เกิดมีความคิดว่า "พิษรักษาพิษ" คือถ้าอะไรทำให้เกิดโรค ไอ้นั่นก็จะรักษาโรค แต่เนื่องจากถ้าป้อนพิษเข้าไปอย่างเข้มข้น คนไข้ก็แย่หมด เขาจึงมีความคิดที่จะเจือจางพิษเหล่านั้นเยอะๆ เจือจางไปมาจนไม่เหลือพิษในน้ำยาแล้ว พอคนไข้กินเข้าไปก็เหมือนกินน้ำเปล่า ซึ่งดีกว่าใช้การรักษาที่ไม่ได้เรื่องสมัยนั้น :-)
ถ้าท่านสนใจเพิ่มเติมและฟังภาษาอังกฤษได้ผมแนะนำให้ดูคลิปนี้นะครับ มีซับอังกฤษให้อ่าน:
วีรบุรษน้อย
เมื่อวันที่ 15 เมษายน มีงานสงกรานต์ของตระกูลผม เด็กๆในหมู่บ้านและเด็กๆที่มางานต่างลงเล่นน้ำในสระน้ำของหมู่บ้านอย่างสนุกสนาน
ปรากฏว่ามีเด็กคนหนึ่งว่ายน้ำไม่เป็น เดิมก็เล่นน้ำอยู่ที่ฝั่งตื้นของสระ แล้วเดินไปทางฝั่งลึกและจมน้ำไปโดยไม่มีใครเห็น พอดีมีพี่เลี้ยงเด็กสาวชาวพม่าของเด็กในหมู่บ้านคนหนึ่งสังเกตเห็นเด็กคนนี้ลอยน้ำควำ่อยู่ มีอโบกไปมาผิดปกติ จึงถามขึ้นมาว่าใครลอยน้ำอยู่ ผู้ใหญ่คนอื่นๆก็มองและเพ่งดูว่าเป็นใคร แล้วก็รู้ว่าคือเด็กที่ว่ายน้ำไม่เป็นคนนั้นนั่นเอง
เด็กชายธีธัชและเด็กชายกานต์ว่ายเข้าไปช่วย โดยทั้งสองจำที่คุณครูสอนไว้ว่าอย่าเข้าไปจับตัวคนจมน้ำเพราะอาจถูกกอดรัดและจมไปด้วยได้ ธีธัชจึงเข้าไปดึงแขน และกานต์เข้าไปดันขาให้เข้ามาที่ฝั่งน้ำตื้น ส่งให้ผู้ใหญ่รับไปปฐมพยาบาล
ผมบันทึกไว้เพื่อให้เด็กชายธีธัชและเด็กชายกานต์จำได้เมื่อเขาโตขึ้นว่าเขามีความกล้าหาญและมีสติอย่างไรในวัยเด็ก
Wednesday, April 13, 2011
Wednesday, April 06, 2011
A Book Publisher's Folly
I'm starting to buy the electronic version of the new books I like. The main reasons are 1. They take no space on the shelf., 2. They are searchable., and 3. They are indestructible. I've bought quite a few recently to read on my computers.
Yesterday, when I went to Amazon to buy another one, I was surprised to see this:
This is so foolish for the publisher to limit the availability of electronic books! It took me 1 minute to search and download a copy of the book floating around in the internet after I saw that warning. Indeed, 45 seconds of the one minute were spent cursing the stupid policy.
I was begging to pay them for goods easily found for free and they refused :-(
So, it seems book publishers haven't learned from the music and movie publishers' experiences yet.
As a heavy consumer of books, I would like to suggest that all physical books should include an electronic version for the back up purpose and all pure electronic books should be priced reasonably--they should be priced substantially less than the paperback version. I would be very happy to keep spending money buying books if publishers are reasonable.
Wednesday, March 16, 2011
ธัญญา: เทพธิดาพยากรณ์ (ภาค 2)
ถ้าไม่เคยอ่านภาค 1 อ่านได้จากที่นี่ครับ
วันนี้มีคนถูกหวยที่ธัญญาบอกไม่ต่ำกว่าสี่คน ทั้งพี่เลี้ยง อาที่ทำงาน อาที่เคยทำงานด้วยกัน และป้าที่ทำอาหาร
เมื่อวันก่อนขณะที่ธัญญากำลังเล่นกับอาตาล อาเติ้งก็โทรมา แล้วฝากถามธัญญาว่าหวยงวดหน้าออกอะไร ธัญญาไม่ยอมบอก แต่เมื่ออาตาลบอกว่าเดี๋ยวให้ดูการ์ตูน ธัญญาก็กลับใจ แล้วบอกว่า 96
ข่าวเลข 96 ก็กระจายไป และมีคนซื้อตามๆกัน วันนี้ตอนสี่โมงนิดๆ อาเติ้งโทรมาจากเชียงใหม่ด้วยเสียงตื่นเต้นว่าถูกหวย ทำให้ทุกคนตื่นเต้นไปตามๆกันด้วย
อนึ่ง ผมก็ใบ้หวยทุกครั้งที่มีคนถาม แต่ตัวเลขมักไม่ซ้ำกันเพราะผมขี้ลืม ใบ้ถูกไป 3 ครั้งแล้ว คราวนี้ผมบอกว่า 42 หรือ 43 หรือ 82 (ความจริง 96 = 4 x 24 ซึ่งคล้ายๆกับ 42 นะครับ 555)
ปล.
1. ผมไม่เชื่อว่ามีใครใบ้หวยได้นะครับ ถ้าใครรู้ว่าหวยจะออกอะไร เขาไม่น่าจะมานั่งใบ้หวย แต่ควรไปหาเงิน หรือกู้เงินแทงตามที่ตนเองรู้ น่าจะร่ำรวยกว่า
2. ผมเคยคิดว่าคนที่ซื้อหวยนั้น ควรหยุดซื้อ เพราะผู้เล่นเสียเปรียบ ยังไงๆเจ้ามือก็ได้กำไรอยู่ดี แต่พอผมอายุมากขึ้น ผมก็เปลี่ยนความคิดกลายเป็นว่าการซื้อหวยมันเป็นความบันเทิงของคนซื้อที่เขาเลือกซื้อเอง อาจจะดีกว่าไปนั่่งดูหนังหรือดื่มกินแพงๆเสียด้วย
3. ผมเคยเปรียบเทียบหวยกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ที่นี่ครับ
4. ผมเคยเขียนเกี่ยวกับหวยไว้ในอดีตบ้างในลิงค์เหล่านี้ครับ
Tuesday, March 15, 2011
เทียบพลังงานระหว่างระเบิดนิวเคลียร์และแผ่นดินไหว
วันนี้ผมพึ่งพบว่าพลังงานที่ถูกปลดปล่อยจากแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 นั้น มากกว่า ระเบิดนิวเคลียร์ที่ถูกทิ้งที่ฮิโรชิมา (หรือนางาซากิ) เป็นล้านลูก
พลังงานจากแผ่นดินไหวขนาด 9.0 จะเท่ากับ 1.3 x 10^20 จูล หรือเท่ากับแรงระเบิดของ TNT 32 พันล้านตัน
พลังงานจากระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมา เท่ากับ 7 x 10^13 จูล หรือเท่ากับแรงระเบิดของ TNT 18,000 ตัน หรือเทียบได้กับพลังงานจากแผ่นดินไหวขนาดประมาณ 4.8 เท่านั้น
พลังงานจากระเบิดนิวเคลียร์ที่นางาซากิ เท่ากับ 9 x 10^13 จูล หรือเท่ากับแรงระเบิดของ TNT 21,000 ตัน หรือเทียบได้กับพลังงานจากแผ่นดินไหวขนาดประมาณ 4.9 เท่านั้น
เมื่อขนาดแผ่นดินไหวต่างกัน 1.0 พลังงานจะปล่อยออกมาต่างกันประมาณ 32 เท่า ถ้าต่างกัน 2.0 พลังงานก็จะปล่อยออกมาต่างกัน 1,000 เท่าพอดี เช่น พลังงานของ 9.0 จะมากกว่า 7.0 หนึ่งพันเท่าเป็นต้น
Friday, March 11, 2011
ของวิเศษของชาวโลก
ถ้าไม่เห็นรูปหรือวิดีโอ เข้าไปดูที่เว็บ http://kostuff.blogspot.com/ นะครับ
1. Search engine ของ Google
2. Wikipedia
3. Khan Academy
สองอันแรกทุกคนคงเคยใช้กันแล้ว สำหรับ Khan Academy คุณ Salman Khan มานำเสนอว่าจะเปลี่ยนแปลงการศึกษาอย่างไรดีครับดังนี้:
ผมได้ทำการชักชวนผู้มีเงินมาใช้เงินอย่างเป็นประโยชน์ด้วยการสนับสนุนการแปล Khan Academy ไว้ใน blog post นี้ครับ
ตอนนี้มีคนเริ่มแปลเองบ้างแล้วครับ
Thursday, March 10, 2011
หนังสือแนะนำสำหรับนักเรียนจบใหม่และมนุษย์เงินเดือนครับ
ถ้าไม่เห็นรูปหรือวิดีโอ เข้าไปดูที่เว็บ http://kostuff.blogspot.com/ นะครับ
หนังสือชื่อ "101 ปฏิบัติการพลิกชีวิต Money Makeover" ครับ เขียนโดยคุณรัชชพล เหล่าวานิช เป็นหนังสือที่มนุษย์เงินเดือนควรอ่าน เพื่อเป็นแนวทางสร้้างความมั่นคงทางการเงินในชีวิต เพราะเราๆท่านๆส่วนใหญ่ชอบใช้จ่ายเงินแบบไม่ยั้งคิดกันทั้งนั้น :-) หนังสือเล่มนี้เตือนสติและชี้แนะช่องทางที่พวกเราควรจะรู้เป็นความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเงินครับ หนังสือไม่หนา ราคาน้อยกว่ากาแฟ Starbucks สองแก้ว
Wednesday, March 02, 2011
เดินทำงานได้ครบ 200 กิโลเมตรแล้วครับ
ถ้าไม่เห็นรูปหรือวิดีโอ เข้าไปดูที่เว็บ http://kostuff.blogspot.com/ นะครับ
สัปดาห์หนี่ง ผมจะได้เดินสามถึงสี่วัน วันละสองสามชั่วโมงที่ความเร็วประมาณ 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมระยะทางประมาณ 8-12 กิโลเมตรต่อวัน (วันหลังๆนี่เดินประมาณสิบกิโลที่ความเร็ว 3.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วครับ) ขณะที่เดินก็สามารถทำงานด้านคอมพิวเตอร์ได้ด้วยครับ วันนี้เป็นวันที่ 23 ได้ระยะทางรวมเกิน 200 กิโลเมตรในที่สุด
ผลที่ได้ก็คือรู้สึกว่าเหนื่อยยากขึ้นครับ เมื่อก่อนเดินไปสักชั่วโมง หัวใจจะเต้นประมาณ 120 ครั้งต่อนาที ตอนนี้เหลือ 100 ครั้งต่อนาทีครับ เล่นแบดมินตันก็หายใจได้ดีขึ้น เหนื่อยน้อยลง กล้ามเนื้อที่ต้นขาและหน้าท้องแข็งกระชับขึ้นครับ
น้ำหนักไม่ลดนะครับ แต่ผมทานอาหารเยอะ ถ้าไม่ออกกำลังกาย น้ำหนักจะขึ้น แค่นำ้หนักไม่เพิ่มก็ดีแล้วครับ สำหรับท่านที่ต้องการลดน้ำหนัก การออกกำลังกายอย่างเดียวไม่น่าจะดีนัก เพราะต้องออกกำลังกายนานๆๆๆๆๆๆมากกว่าน้ำหนักจะลด ต้องจำกัดอาหารการกินด้วย ไม่งั้นไม่ได้ผล
ปล. เมื่อสองปีที่แล้ว ผมได้ทดลองฝึกวิดพื้นตามโปรแกรม One Hundred Pushups เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย ซึ่งก็ทำได้สำเร็จนะครับ แต่ช้าไปกว่าที่โปรแกรมกำหนดไปสามสัปดาห์เพราะต้องสอบซ่อม ช่วงนั้นวิดพื้น 50 ครั้งได้เรื่อยๆไม่ยาก โดยตอนที่ทำดีที่สุดวิดได้ 103 ครั้งครับ พอไม่ได้ทำต่อเนื่อง กล้ามเนื้อก็เสื่อมลงไปทำให้ตอนนี้เหลือวิดได้ประมาณ 30-40 ครั้งครับ ผมจดบันทึกการฝึกไว้ที่นี่ครับ
Tuesday, March 01, 2011
มาใช้เงินกันเถอะ
ถ้าผมมีเงินเหลือใช้สัก 5 ล้านบาทผมจะจ้างคนแปลหรือทำซับไตเติ้ล Khan Academy (http://www.khanacademy.org/) ให้เด็กๆ คุณพ่อคุณแม่ และคุณครูเมืองไทยจำนวนมากๆใช้ช่วยการเรียนการสอน ตอนนี้ภรรยาผมดูใหญ่เลยเพื่อไว้สอนลูกๆ
ค่าใช้จ่ายในการทำการแปลไปเรื่อยๆไม่น่าเกินเดือนละแสน ตอนแรกต้องใช้เงินเยอะหน่อยเพื่อให้แปลบทเรียนที่มีอยู่เสร็จเร็วๆ
ใครรู้จักแหล่งเงินถ้าทำได้รีบทำเลยนะครับ ปริมาณเงินที่ใช้น้อยกว่ารถสปอร์ต แต่สามารถยกระดับปัญญาประชากรได้เยอะนะครับ
Wednesday, February 16, 2011
อย่าใช้ Chrome ยื่นภาษีทางเน็ต
คราวนี้เป็นครั้งที่สามที่ผมเขียน blog เกี่ยวกับการยื่นภาษีทางเน็ตครับ
ในปี 2552 ผมเขียน อย่าใช้ Firefox ยื่นแบบภาษีทางเน็ต ปี 2553 ผมเขียน เมื่อ(คอมพิวเตอร์)กรมสรรพากรคิดว่าผมเป็นผู้หญิง ปีนี้ผมลองใช้ Google Chrome ยื่นแบบภาษีครับ
ปัญหาเหมือนกับยื่นแบบด้วย Firefox เมื่อสองปีที่แล้วครับ คือพอถึงหน้าที่ให้กรอกเงินปันผลจากบริษัทต่างๆ ผมก็สามารถกรอกข้อมูลได้ แต่พอกดว่าเสร็จ ข้อมูลที่กรอกเข้าไปไม่ถูกใส่ไปในการคำนวณ
ผมหันไปใช้ Internet Explorer บน Windows XP กรอกสำเร็จในที่สุดครับ ตอนทำเสร็จ กรมสรรพากรมีคำชมว่ายื่นแบบทางเน็ตช่วยลดโลกร้อนด้วยครับ :-D
โดยรวมแล้วบริการยื่นแบบภาษีทางเน็ตใช้งานได้ไม่ยาก ตรงไปตรงมาดีครับ แต่ควรใช้กับ Internet Explorer เท่านั้น
บันทึกไว้เพื่อช่วยความจำตนเองและเผื่อคนอื่นๆเห็นจะได้ประหยัดเวลาครับ
Tuesday, February 15, 2011
Thursday, February 10, 2011
หนังสือแนะนำ: Predictably Irrational และ พฤติกรรมพยากรณ์
Predictably Irrational ที่เขียนโดย Dan Ariely หรือฉบับแปลเป็นภาษาไทยที่เรียกว่า พฤติกรรมพยากรณ์ โดยคุณพูนลาภ อุทัยเลิศอรุณ เป็นหนังสือที่น่าสนใจและอ่านสนุกมากครับ เนื้อหาเกี่ยวกับวิธีตัดสินใจที่ไม่ค่อยมีเหตุผลของคนทั่วๆไป ที่แพร่หลายจนเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของเราครับ นักการตลาดสามารถใช้ความไม่มีเหตุผลของเราเพื่อเพิ่มยอดขายหรือสร้างราคาและตลาดใหม่ๆเต็มไปหมดครับ
อาจารย์ป่านให้หนังสือ Predictably Irrational ผมนานแล้วครับ แต่พึ่งเห็นฉบับแปลภาษาไทยเลยมาพึ่งมาแนะนำ
Dan Ariely มีเว็บไซต์ของเขาด้วยครับ
Tuesday, February 08, 2011
Friday, February 04, 2011
Today I Learned About Prince Rupert's Drops
Here's the link from Wikipedia.
The drops are "...are a glass curiosity created by dripping hot molten glass into cold water. The glass cools into a tadpole-shaped droplet with a long, thin, tail. The water rapidly cools the molten glass on the outside of the drop, while the inner portion of the drop remains significantly hotter. When the glass on the inside eventually cools, it contracts inside the already-solid outer part. This contraction sets up very large compressive stresses on the exterior, while the core of the drop is in a state of tensile stress. It can be said to be a kind of tempered glass. The very high residual stress within the drop gives rise to unusual qualities, such as the ability to withstand a blow from a hammer on the bulbous end without breaking, while the drops will disintegrate explosively if the tail end is even slightly damaged."
Here's a video clip of them exploding on YouTube:
Tuesday, February 01, 2011
Wednesday, January 26, 2011
กลของพวกหลอกลวงแบบหนึ่ง
พวกหลอกลวงขายเหรียญควอนตัมและเครื่องรางของขลังจะบอกว่าของวิเศษของเขาทำให้ผู้ซื้อแข็งแรง กดแขนไม่ลงครับ แต่มันเป็นกล ถ้ากดลงแต่เฉียงๆออกจากตัวนิดหน่อยจะกดได้ง่าย ถ้ากดลงแต่เฉียงๆเข้าตัวนิดหน่อยจะกดยาก
ถ้าท่านอยู่บน Facebook ผมแนะนำให้เข้าไปดูกลุ่มต่อต้านการหลอกลวงที่ http://www.facebook.com/antipseudoscience นะครับ จะได้ช่วยๆกันเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้อง ไม่ถูกคนอื่นหลอก บางเรื่องถึงตายได้เลยครับถ้าถูกเขาหลอก
สำหรับความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ผมเคยเขียนไว้ที่ หวยกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (หรือทำไมผมควรจะหยุดรับรู้ข่าวสารบ้านเมืองไทย) และที่ เชื่อผิดๆ ซวยเพิ่มขึ้น ครับ
Tuesday, January 25, 2011
Friday, January 21, 2011
A Few Webpages For Math Teachers And Learners
If you are teaching math to kids or if you find math interesting, here are a few websites that you might enjoy.
The Virtual Math Tutor site contains solved math problems for high school and college levels.
Math Magic contains a bunch of mathematical puzzles that you might enjoy. The archive goes back to 1998.
Project Euler contains puzzles for math and programming. The intended audience would "...include students for whom the basic curriculum is not feeding their hunger to learn, adults whose background was not primarily mathematics but had an interest in things mathematical, and professionals who want to keep their problem solving and mathematics on the edge."
Tuesday, January 18, 2011
Tuesday, January 11, 2011
Monday, January 10, 2011
A Minor Problem Buying Software Through App Store
I saw Apple's new App Store on my Mac's dock and wanted to try it. I wanted to buy Angry Birds for $4.99. After clicking the Buy button, App Store kept saying that it could not process my request. I tried doing the same thing three times over two days in case the problem was temporary but I failed every time. Each time, the App Store asked me to review my Apple ID information and I noticed finally that the rule for acceptable password seemed to be different from the last time I created my password. So, I tried logging in my Apple ID account and changed my password to satisfy the new password verification rule. After that, App Store let me buy software with no problem.
So, to summarize, Apple apparently changed their password verification rule so that a valid password created three years ago does not pass the new verification rule (with a new set of letters, numbers, symbols, etc.) and stopped my from using the App Store.
Wednesday, January 05, 2011
Want To Be A Good Theoretical Physicist?
Gerard 't Hooft (a winner of the 1999 Nobel Prize in physics) has written a guide on how someone can self-study to be a good theoretical physicist. I think it's a good guide, suitable for someone serious and determined:
"...It should be possible, these days, to collect all knowledge you need from the internet. Problem then is, there is so much junk on the internet. Is it possible to weed out those very rare pages that may really be of use? I know exactly what should be taught to the beginning student. The names and topics of the absolutely necessary lecture courses are easy to list, and this is what I have done below. It is my intention to search on the web where the really useful papers and books are, preferably downloadable as well. This way, the costs of becoming a theoretical physicist should not exceed much the price of a computer with internet connection, a printer, and lots of paper and pens. Unfortunately, I still have to recommend to buy text books as well, but it is harder to advise you here; perhaps in a future site. Let's first limit ourselves to the absolute minimum. The subjects listed below must be studied. Any omission will be punished: failure. Do get me right: you don't have to believe anything you read on faith - check it. Try alternative approaches, as many as you can. You will discover, time and again, that really what those guys did indeed was the smartest thing possible. Amazing. the best of the texts come with exercises. Do them. find out that you can understand everything. Try to reach the stage that you discover the numerous misprints, tiny mistakes as well as more important errors, and imagine how you would write those texts in a smarter way."
Tuesday, January 04, 2011
ที่มาของชื่อธัชธีญา
ตอนทารกหญิงที่ต่อมาชื่อธัชธีญาเกิดนั้น (เกิดวันที่ 5 ธันวาคม 2548) ผมและภรรยายังไม่ทราบว่าจะตั้งชื่อว่าอะไร พวกเราอยากได้ชื่อไทยที่ออกเสียงและเขียนเป็นภาษาอังกฤษได้สั้นๆเหมือนชื่อพี่ชายของเธอ (ที่ชื่อ ธีธัช--Titus) อาแอนดรูว์ (Andrew Chantra) จากอเมริกาได้เสนอชื่อ Tatia ซึ่งสั้นดีและอ่านได้ว่า ทา-ทิ-ยะ ผมและภรรยาก็เลยเขียนเป็นธัชธีญาในภาษาไทยเสียเลย แต่อย่าถามผมเรื่องความหมายของคำนี้เลยครับ มีคนบอกว่าธีธัชแปลว่าผู้มีปัญญาเป็นธงชัย (แต่ผมก็ไม่เคยไปสืบดูว่าจริงหรือเปล่า เพราะผมและภรรยาตั้งชื่อโดยภรรยาเสนอชื่อภาษาไทยมา 5 ชื่อและผมเลือกชื่อที่สามารถเขียนง่ายๆในภาษาอังกฤษด้วย) ดังนั้นผมก็เลยโมเมว่าธัชธีญาก็มีความหมายเหมือนกันแต่เป็นผู้หญิงเพราะมี -ญา ต่อท้าย
วันที่ธัชธีญาเกิด ผมหาคำว่า "ธัชธีญา" ดู ปรากฏว่า Google ไม่พบเว็บที่มีคำนี้เลย
ตอนเมื่อธัชธีญาเกิดได้ 6 วัน ผมลองค้นหาใหม่ ปรากฏว่ามีหนึ่งหน้า ซึ่งก็เป็นหน้าที่ผมเขียนบันทึกการเกิดของเธอไว้
วันนี้ (4 มกรา 2554) ผมพบว่ามีประมาณ 84,000 หน้าที่มีคำว่า "ธัชธีญา" แล้วครับ (แต่ไม่ใช่ว่าทุกหน้าจะมีคำว่าธัชธีญานะครับ เห็น Google แสดงหน้าที่มีคำใกล้เคียงเข้าไปด้วย แต่ก็นั่นแหละ เมื่อห้าปีที่แล้วยังไม่มีสักหน้าเลย)
Saturday, January 01, 2011
เรื่องเศร้าจากการแต่งงานของควายกับแมวน้ำ
ธัญญามีตุ๊กตาแมวน้ำและตุ๊กตาควายเป็นของเล่น เมื่อสองสามวันที่แล้ว (28 ธันวา 2553) ธัชธีญากับธัญญาเล่นจัดงานแต่งงาน โดยให้แมวน้ำเป็นเจ้าสาว และควายเป็นเจ้าบ่าว ธีญาเป็นพิธีกรในงานแต่งงาน และธัญญาเป็นช่างภาพ
ธีญา: หม่าม้าคะ พิธีกรต้องพูดอะไรบ้าง?
แม่อ้อ: ก็ต้องแนะนำตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวค่ะ
ธีญา: นี่นะคะคือเจ้าบ่าว (ชี้ไปที่ควาย แล้วหันมาหาหม่าม้าใหม่) หม่าม้าคะ เจ้าบ่าวนี่เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
แม่อ้อ: เจ้าบ่าวเป็นผู้ชาย เจ้าสาวเป็นผู้หญิง
ธีญา: นี่คือเจ้าบ่าว เป็นผู้ชาย ชื่อควาย นี่คือเจ้าสาว เป็นผู้หญิง ชื่อแมวน้ำ
แม่อ้อ: แล้วเขาพบกันตั้งแต่เมื่อไร
ธีญา: พบกันตั้งแต่ อ. เตรียม (เตรียมอนุบาล)
แม่อ้อ: แล้วรักกันได้ยังไง
ธีญา: สมมุติว่านี่คือควาย (ชูนิ้วชี้ซ้าย) นี่คือแมวน้ำ (ชูนิ้วชี้ขวา) เค้าเดินเข้ามา แล้วก็มาจุ๊บกัน (ลากนิ้วชี้ทั้งสองเข้าหากัน และเอาปลายนิ้วมาแตะกัน)
จากนั้นงานแต่งงานก็ดำเนินต่อไป จนธีญาประกาศว่าแต่งงานแล้วควายและแมวน้ำก็ต้องย้ายบ้านไปบ้านใหม่เท่านั้นเอง ธัญญาก็ร้องไห้โฮ เพราะไม่อยากให้แมวน้ำย้ายออกไป ดังในวิดีโอต่อไปนี้:
Subscribe to:
Posts (Atom)