วันนี้ไปร้านหนังสือ SE-ED แล้วเจอหนังสือเล่มนี้ครับ
ชื่อว่า"บางสิ่งที่น่าเสียดาย ไอน์สไตน์ไม่เคยพบแต่พระพุทธเจ้าเห็น" ครับ วูบแรกผมก็คิดเลยว่า เอาอีกแล้วเหรอ ไอ้หนังสือประเภท ไอน์สไตน์ปนกับพระพุทธเจ้าเนี่ย ซึ่งทุกๆเล่มที่ผมดูผมก็จะเปิดดูส่วนที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ และจะพบว่าค่อนข้างมั่วทุกเล่ม ดังนั้นผมจึงคิดว่าส่วนอื่นๆที่ผมไม่ได้อ่านก็น่าจะค่อนข้างมั่วด้วย ผมจึงไม่ให้น้ำหนักกับหนังสือพวกนี้นัก
สำหรับเล่มนี้ ปรากฏว่าจากการสุ่มอ่านส่วนที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์แล้ว เล่มนี้มั่วมหากาฬเลยครับ ไม่รู้ว่าคนเขียนมันกล้าเขียนออกมาได้อย่างไร ผมอ่านแล้วก็เซ็งว่าถ้าคนไม่เคยศึกษากระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาอ่านเข้า จะสมองเสียถาวรหรือเปล่า ผมถึงรู้สึกว่าต้องมาเขียนเตือนไว้ที่นี้ เผื่อท่านได้ไปประสบพบพานเข้า จะได้ระวังตัวไว้ ถ้าจะอ่านก็ต้องมีวิจารณญาณดีๆ ท่องคาถาสามข้อนี้ไว้ครับ:
1. จริงเหรอ?
2. รู้ได้ไงว่าจริง หลักฐานมันคืออะไร?
3. จะแยกได้ไงว่าไม่ใช่ประสาท/สมอง หลอก/หลอน ตัวเอง?
2 comments:
Fritjof Capra ผู้เป็นต้นตำรับหนังสือแนวนี้เขาเขียนได้ดีเพราะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มาสนใจศาสนาตะวันออก แต่พอนักการศาสนาตะวันออกเหลิงไปกับกระแสที่เกิดขึ้น ก็ดำน้ำกันเป็นแถบ
ผมคิดว่านักเขียนเหล่านี้ยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำ ว่าที่ไอน์สไตน์พูดถึงพุทธศาสนานั้น พูดในแง่ไหน หมายความว่าอะไร
ถ้าจะเปรียบพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ ผมคิดว่าเปรียบเทียบในเชิงกระบวนการคิด การแสวงหาและอธิบายความจริง จะตรงประเด็นกว่ามาพูดถึงอภิปรัชญาครับ
ผมเห็นด้วยกับคุณ Thep ที่ว่า "ถ้าจะเปรียบพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ ผมคิดว่าเปรียบเทียบในเชิงกระบวนการคิด การแสวงหาและอธิบายความจริง จะตรงประเด็นกว่ามาพูดถึงอภิปรัชญาครับ" ครับ :-)
Post a Comment