Thursday, August 28, 2008

ใครเป็นกบฏกันแน่


อันไหนเข้าข่ายกบฏต่อประเทศไทยนะครับ:

1. คณะนักเลือกตั้งที่ซื้อเสียงเข้ามา ถูกจับได้ เลยจะแก้รัฐธรรมนูญให้ตัวเองและเจ้านายที่หนีคดีไปอังกฤษพ้นผิด ทำสนธิสัญญาที่ทำให้ประเทศเสียอธิปไตยโดยขัดรัฐธรรมนูญ ส่งคนที่มีมลทินด้านฉ้อโกงไปควบคุมระบบการเงินการธนาคาร สร้างเมกาโปรเจ็คที่ไม่เข้าท่ามาผลาญเงินประเทศ ไม่ทำงานให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม

2. กลุ่มคนที่รู้ทันพวกข้อหนึ่ง เลยไปชุมนุมไล่พวกมัน ให้ออกจากอำนาจ

โธ่ไอ้นายกหอกหัก แก่เสียทรัพยากรโลกจริงๆ


Friday, August 15, 2008

"Inoculating Thailand Against One-Man Rule"

For my English-speaking friends, here's a piece in the International Herald Tribune about Thaksin's run from justice to England.

An excerpt:

...Thaksin bought his popularity and the support of the rural poor in Thailand. He purchased or intimidated media outlets. He countenanced extra-judicial assassinations as a tool for waging a highly publicized war on drugs while leaving alone the drug lords in neighboring Burma, who are the source of that trade. He provoked popular protest when he sold his family's 49 percent share in the Shin telecommunications company for $1.9 billion to a Singaporean company and claimed exemption from any capital gains tax. And he is currently fleeing charges that he used his power to secure insider deals on real-estate purchases for family members....

Here's another one in Time: Thaksin Flees to London -- Again

... Six months after returning from exile in triumph, Thailand's former Prime Minister Thaksin Shinawatra fled to London on Aug. 11, the same day that the former Thai leader and his wife were due to face corruption charges in Thailand's courts....

...In July, three of Thaksin's lawyers were sentenced to six months in jail for attempting to bribe officers at the Constitutional Court. Soon after, Thaksin's wife Pojaman, her secretary and her brother were convicted of tax evasion and sentenced to three years in jail. They were released on bail and are appealing the case...

Wednesday, August 13, 2008

จำนวนครั้งที่คนมาอ่านกระทู้เก่าพันทิพเป็น Power Law?

ผมมาดูว่ากระทู้เก่าๆจาก Pantip.com ที่ Atriumtech.com เก็บไว้มีคนมาอ่านมากไหม เลยไปดูข้อมูลย้อนกลับไปประมาณ 4 อาทิตย์ แล้วลองเอาจำนวนครั้งที่อ่าน และลำดับที่มา plot ดูแล้วได้รูปนี้:


แกนตั้งคือจำนวนครั้งที่กระทู้ถูกอ่าน แกนนอนคือลำดับของกระทู้ (ลำดับที่ 1 คืออ่านมากสุด)

ปรากฎว่าเวลา plot แบบ log-log แล้วดูเหมือนว่าลำดับต้นๆ (1-300) จะเรียงเป็น(ประมาณ)เส้นตรง แปลว่าจำนวนครั้งที่อ่านจะประมาณเท่ากับ ลำดับที่ ยกกำลังอะไรบางอย่างที่เป็นลบ

ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามีเหตุผลอะไรหรือเปล่าที่ทำให้เกิดข้อมูลแบบนี้ แต่ Power-law เกิดบ่อยๆในปรากฎการณ์หลายๆแบบ และนี่อาจเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง

Tuesday, August 12, 2008

อะไรเอ่ย ขี้โกง ขี้ขลาด และปากหมา

ไม่ใช่ผมนะครับเพราะผมแค่ขี้ขลาดกับปากหมา

ขอคัดลอกบทความคุณเปลวสีเงินที่โดนใจผมมาก ถ้ากดลิ้งค์เข้าไปยังมีบทความคุณเปลวอีกหลายอันนะครับ

เปลวสีเงิน
แถลงการณ์ "ซุกหางเห่า"ของทักษิณ

12 สิงหาคม 2551    กองบรรณาธิการ

อีกคน-ที่เป็นสามี มียศพระราชทานนำหน้าชื่อ เรียกกันว่า"พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"ส่วนอีกคน-ที่เป็นภรรยา ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ถึงระดับตระกูลจุลจอมเกล้ามีคำว่า"คุณหญิง"นำหน้าชื่อ   เรียกกันว่า"คุณหญิงพจมาน ชินวัตร"

ทั้งสองคนนี้ อาศัยแผ่นดินไทยใต้พระบารมี"จักรีวงศ์"เกิด และอาศัยแผ่นดินนี้ทำมาหากินจนร่ำรวยเป็นผู้-เป็นคนที่มีหน้ามีตาสูงส่งระดับชาติ ได้รับสัมปทานธุรกิจผูกขาดจากรัฐจนมีเงินนับแสนล้าน    แล้วเอาทรัพยากรแผ่นดินของประเทศไป"ขาย"ให้ต่างชาติ ได้เงินมาเลี้ยงดูครอบครัว สมบูรณ์พูนสุขขึ้นอีกร่วมแสนล้าน! ไม่เพียงเท่านั้น ประชาชนคนไทยยังสนับสนุน"ผู้เป็นสามี"ให้เป็นสส.และเป็น นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย   ส่วนภรรรยา   ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึงระดับชั้น"คุณหญิง"!

กระทั่งบริษัทการค้า"ชินคอร์ปอเรชั่น"ก็ยังได้รับพระราชทานตราตั้ง "พระครุฑพ่าห์"อันเป็นตราแผ่นดิน ให้ติดประดับงามสง่าอยู่หน้าตึกชินวัตร ๓ ถึงปัจจุบันนี้ ทั้งที่ขายให้"ต่างชาติ"ไปแล้ว! แต่ทั้งสองคนนี้  ระหว่างมีอำนาจรัฐ  พฤติกรรมที่ปรากฏต้องถูกตรวจสอบในข้อกล่าวหาทุจริตคอรัปชั่นหลายคดี ขณะนี้ องค์คณะใน"สถาบันศาลยุติธรรม""กำลังทำหน้าที่พิสูจน์"สุทธิ-อสุทธิ"ในการกระทำเพื่อประทานความเป็นธรรม ด้วยอำนาจ ภายใต้"พระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และศาลท่านเมตตา ให้สองสามี-ภรรยาเดินทางไปร่วมพิธีเปิดโอลิมปิกที่เมืองจีนได้ตามที่ร้องขอ  โดยการประกันตัวด้วยหลักทรัพย์  และให้กลับมารายงานตัวต่อศาลในวันที่ ๑๑ สค.

แต่แล้ว...
เช้าวันที่  ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๑ ตามวัน-เวลาที่ให้คำสัตย์ต่อศาลไว้ว่าจะกลับมา คนชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน กลับเขียน"คำแถลงการณ์"เป็นลายมือจากอังกฤษมาแทนตัวเอง ด้วย"เหิม-กระด้าง"ต่อกระบวนการบ้านเมือง ความว่า

แถลงการณ์  
เรื่องการไม่ไปรายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง

ก่อนอื่น กระผมต้องกราบขอประทานอภัยต่อคณะผู้พิพากษาที่ดินรัชดาฯ รวมถึงพี่น้องประชาชนผู้สนับสนุนผมทุกท่าน    ที่ผมและภรรยาได้เดินทางไปยังประเทศอังกฤษ   ซึ่งเป็นประเทศที่ยึดหลักการประชาธิปไตยเหนือสิ่งอื่นใด  และไม่ได้ไปรายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมและครอบครัว  พร้อมกับบุคคลผู้ใกล้ชิด เป็นผลพวงต่อเนื่องมาจากความต้องการขจัดผมออกจากการเมือง      ด้วยความพยายามลอบสังหาร นอกจากนี้  ยังตามมาด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร แต่งตั้งคณะบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์มาดำเนินคดีเฉพาะตัวผมและครอบครัว
ร่างรัฐธรรมนูญที่สืบทอดอำนาจเผด็จการ แต่งตั้งบุคคลที่สนับสนุนการปฏิวัติรัฐประหาร   ทั้งทางตรงและทางอ้อมเข้าไปเป็นกรรมการในองค์กรต่างๆเพื่อดำเนินการกับผม

เมื่อมีการเลือกตั้งในวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๐ ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงเลือกพรรคพลังประชาชนที่มีผู้สมัครส่วนมากมาจากพรรคไทยรักไทยเดิมให้กลับคืนมาทำหน้าที่แทนของพวกเขา  ผมคิดว่าเหตุการณ์คงจะดีขึ้น ผมคงมีโอกาสได้กลับไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์  และได้รับความเป็นธรรม  จึงได้เดินทางกลับมาประเทศไทยเมื่อวันที่  ๒๘  กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ แต่เหตุการณ์กลับยิ่งเลวร้ายลง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวผมและครอบครัวเป็นเสมือนผลไม้ที่เกิดจากต้นไม้ที่เป็นพิษ   ผลของมันก็ย่อมเป็นพิษตามไปด้วย นั่นก็คือยังคงมีการสืบทอดระบอบเผด็จการในการจัดการการเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตย  ตามมาด้วยการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยเอาผลลัพธ์ที่อยากจะได้เป็นตัวตั้งเพื่อจัดการกับผมและครอบครัว     ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้ถือว่าเป็นสัตรูทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงระบบกฎหมาย ระบบข้อเท็จจริงและการสอบสวนดำเนินคดีตามหลักนิติธรรมสากล ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายว่าด้วยพยานหลักฐาน การบังคับใช้กฎหมายที่เป็นผลย้อนหลัง   ไม่ยอมใช้หลักนิติธรรม  และหลักนิติรัฐ  ผมและครอบครัวได้ถูกดำเนินการอย่างไม่เป็นธรรมเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง

การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม   และการใช้ระบบ   ๒   มาตรฐานที่เห็นได้อย่างชัดเจน  ทำให้ผมและครอบครัว พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับความเป็นธรรม   แต่ยังเทียบไม่ได้กับการที่ระบบยุติธรรมของประเทศและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ที่มีเกียรติ  มีความน่าเชื่อถือ  สั่งสมมาเป็นเวลานานต้องเสื่อมลง เพราะถูกนำมาใช้ทางการเมืองจนขาดความเป็นกลาง   ซึ่งเป็นผลเสียหายต่อประเทศอย่างใหญ่หลวง

นอกจากนี้ ผมได้รับข่าวสารตลอดว่า ชีวิตของกระผมไม่ปลอดภัยในการเดินทางไปไหนมาไหน  จึงต้องใช้รถกันกระสุน นี่คือผลที่ได้รับจากการเข้ามาทำงานรับใช้ประเทศ  ราชบัลลังก์  และประชาชน ด้วยความทุ่มเททำงานอย่างหนักมาตลอด เกือบ  ๖ ปีที่ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ผมจึงต้องขออภัยอีกครั้งหนึ่ง ที่ต้องตัดสินใจมาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และขอยืนยันว่า

ด้วยความเคารพรัก
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ครับ..นี่คือทองคำเคลือบหน้ากากโจร  คนที่ประกาศรับรองตัวเองว่า"ผมไม่ได้เลว"แต่กลับเขียนแถลงการณ์"ด่า-ประณาม"บ้านเมืองตัวเอง โดยยึดเอาสิ่งที่ตัวเองและครอบครัว"เสียประโยชน์"ว่า ไม่เป็นธรรม  ถูกใส่ร้าย

คนประเภทนี้...
เป็นคนดีสมบูรณ์แบบ หรือเป็นคนระยำสมบูรณ์แบบ เชิญตรอง?

พ.ต.ท.ทักษิณ  ยก"ผลร้าย"ที่เกิดกับตัวเองฟ้องสังคมโลก แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่บอกกับสังคมโลกว่า ผลร้ายนั้นมาจาก"เหตุระยำ"อันใด?

ทำไมไม่ยก"เหตุ"ที่ทำให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหารขึ้นมาบอกชาวโลกเขาชัดๆด้วยล่ะว่า  เพราะไอ้นักการเมืองระยำบางคน  มันใช้ประชาธิปไตยสุมหัวกันเผด็จการ"ปล้นบ้าน-กินเมือง" ประชาชนพึ่งอำนาจในระบบรัฐสภาไม่ได้  แต่เพื่อรักษาสถาบันและประโยชน์ชาติเอาไว้ การปฏิวัติรัฐประหารเพียงรูปแบบ แต่ปฏิบัติการเป็นประชาธิปไตยจนถูกเรียกหาว่า"ปฏิวัติหน่อมแน้ม"จำต้องเกิดขึ้นเพื่อหยุดยั้งเหตุชั่วเฉพาะหน้า   จากบรรดาประชาธิปไตยจอมปลอมที่กำลัง"ปล้นชาติ-กินเมือง"!

พ.ต.ท.ทักษิณเขียนแถลงการณ์ด้วยการนำ"ผล"มาอ้าง  โดยไม่ยอมนำ"เหตุ"มาบอกให้ครบ   จึงน่าละอายนัก  ที่เปรียบเทียบไว้เองว่า"ผมและครอบครัวเป็นเสมือนผลไม้ที่เกิดจากต้นไม้ที่เป็นพิษ ผลของมันก็ย่อมเป็นพิษตามไปด้วย"


"...การที่ระบบยุติธรรมของประเทศและองค์กรที่เกี่ยวข้อง  ที่มีเกียรติ  มีความน่าเชื่อถือ สั่งสมมาเป็นเวลานานต้องเสื่อมลง เพราะถูกนำมาใช้ทางการเมืองจนขาดความเป็นกลาง" นั่นคืออะไร  พ.ต.ท.ทักษิณอยากพูด  ก็ควรพูดให้ชัด และที่แถลงการณ์ว่า"ชีวิตของกระผมไม่ปลอดภัยในการเดินทางไปไหนมาไหนจึงต้องใช้รถกันกระสุน  นี่คือผลที่ได้รับจากการเข้ามาทำงานรับใช้ประเทศชาติ   ราชบัลลังก์   และประชาชน ด้วยความทุ่มเททำงานอย่างหนักมาตลอด..."  คนที่กล้ายก"ประเทศชาติ  ราชบัลลังก์  และประชาชน"ขึ้นมาเอ่ยอ้างในทำนองเป็น"หนี้บุญคุณ"ตัวเองเช่นนี้  ผมสรุปได้คำเดียวว่า นอกจากหยาบช้า สามานย์แล้วยัง บัดซบสิ้นดี!

อ้างกระบวนการยุติธรรมถูกแทรกแซง  ๒ มาตรฐาน ๒ ระบบ ผมจะไม่ยกเหตุมาแย้ง แต่ขอถามว่า ในยุคทักษิณใช่มั๊ย ก็ใครล่ะ..ไปแทรกแซงศาลรัฐธรรมนูญในคดีซุกหุ้น และทนายของใครล่ะ  เอาห่อขนม  ๒  ล้านบาทไปให้เจ้าหน้าที่ศาล จนติดคุกอยู่เวลานี้ ๓ คน ?

ทนายในคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ-พจมานใช่มั๊ย?

และนี่คือสิ่งยืนยันว่า"กระบวนการยุติธรรม"ถูกแทรกแซง ซื้อได้ หรือไม่ได้ ตามแถลงการณ์กล่าวหาระบบ-ระบอบของบ้านเมืองตัวเอง และว่ากระบวนการยุติธรรมไม่เป็นธรรม ผมก็เห็นพ.ต.ท.ทักษิณกับคณะนี่แหละ ขอพึ่งความเป็นธรรมจากกระบวนการศาลมากที่สุด ถึงวันนี้ ก็ยังฟ้องคนอื่นต่อศาลไม่เว่นวาย!

คุณสมบัติคนเป็นผู้นำนั้น   กล้าทำ  ต้องกล้ารับ  ต้องเคารพ"กฎ-กติกาบ้านเมือง"ให้เป็นแบบอย่าง    หนี-แล้วอ้างว่า"ลี้ภัย"   ถุยยย..น่าละอาย   ก็ขณะนี้นั่งเหนือรัฐบาลใช่มั๊ย?  มันมีภัยที่ไหนให้ลี้ มันหนีโทษ"อาญาแผ่นดิน"ตะหาก สุนัข-มันยังไม่ทิ้งฝูงยามมีภัย    เป็นคน-อยากจะเป็นใหญ่    แต่มีอะไรก็หนีเอาตัวรอด แบบนี้"วันของผม"ก็คือ  วันที่มีคุณค่าเพื่อการนำ"ไม่เหนือกว่า"สุนัขตัวไหน  ใครจะอดทนรอ..ก็เชิญ

Friday, August 01, 2008

New Physics! คำพิพากษาจำคุก คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ทำให้คลื่นวิทยุชัดขึ้น!!!



ผมชอบเปิดวิทยุคลื่นยามเฝ้าแผ่นดิน FM 97.75 ฟังในรถ

ที่ผ่านมาประมาณ 3 อาทิตย์ปรากฎว่ามีคลื่นแทรกตลอดเวลาทั้ง พระสวด เพลงลูกทุ่ง หมอลำ ฯลฯ จนไม่สามารถฟังได้ การรบกวนนี้รวมไปถึงคลื่นวิทยุชุมชนอื่นๆที่ช่วยถ่ายทอดเสียงด้วย

เมื่อประมาณหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาณพอฟังได้บ้าง หลังจากพันธมิตรพูดบนเวทีว่า อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ก็ติดคุกได้ ถ้าปฏิบัติหน้าที่โดยมีชอบ แต่ก็มีสัญญาณรบกวนอยู่บ้าง

บ่ายวานนี้ หลังจากศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกคุณหญิงพจมาน สัญญาณวิทยุ 97.75 กลับมาชัดเจน ใสปิ๊ง อย่างที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน