Wednesday, November 25, 2009

An Inappropriate Interpretation Of A Heart-Rending Poem

Someone pointed me to a very sad poem by W.H. Auden today. I first heard it in the movie Four Weddings and a Funeral. However, I just realized that for "He was my North, my South, my East and West" to be true, one of the lovers must be at the north pole and the other must be at the south pole.

Also, the dead lover seems to exhibit superposed quality of space, time, information, and matter. (See the highlighted part of the full poem below.)

The full poem is this:

Stop all the clocks, cut off the telephone,
Prevent the dog from barking with a juicy bone,
Silence the pianos and with muffled drum
Bring out the coffin, let the mourners come.

Let aeroplanes circle moaning overhead
Scribbling on the sky the message He Is Dead,
Put crepe bows round the white necks of the public doves,
Let the traffic policemen wear black cotton gloves.

He was my North, my South, my East and West,
My working week and my Sunday rest,
My noon, my midnight, my talk, my song;
I thought that love would last for ever: I was wrong.

The stars are not wanted now: put out every one;
Pack up the moon and dismantle the sun;
Pour away the ocean and sweep up the wood.
For nothing now can ever come to any good.

If you recite it in an appropriate way, you can summon tears to your eyes.

Tuesday, November 24, 2009

One Down, Quite A Few To Go

“สมัคร สุนทรเวช” ถึงแก่อนิจกรรม

พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา

--สมเด็จกรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส

ผมคิดว่า คดีคอรัปชั่นโกงส่วนรวมต้องไม่มีอายุความ และแม้ตัวจะตายไปแล้ว ทายาทก็ต้องรับผิดชอบนะครับ

ให้อภัยกันพรำ่เพรื่อทำให้ต้นทุนคอรัปชั่นตำ่ไป เลยมีคนทำกันเกลื่อนเมือง บางคนก็คิดสะสมให้ทายาทอีก ส่วนรวมเลยโดนเอาเปรียบมหาศาล

Wednesday, November 18, 2009

ตรรกศาสตร์ประยุกต์

ผมอ่านข่าวว่าผบ.ทบ. ออกมาบอกว่าไม่มีคนในกองทัพเกี่ยวข้องกับการยิงระเบิดใส่การชุมนุมของประชาชนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ที่สนามหลวง ใจผมก็คิดไปเลยว่า "รู้ได้ไงว้า" จากนั้นอีกครึ่งนาที ผมก็คิดว่าข้อความเหล่านี้ต้องเป็นจริงหนึ่งข้อความ:

1. ผบ.ทบ. พูดความจริง และทราบว่าใครบ้างเกี่ยวข้องกับการยิงระเบิด และไม่มีใครในกลุ่มนั้นเกี่ยวข้องกับกองทัพ

2. ผบ.ทบ. พูดความจริง และได้ตรวจสอบทุกๆคนในกองทัพ และไม่มีใครเกี่ยวข้องกับการยิงระเบิด

3. ผบ.ทบ. ไม่ได้พูดความจริง

โอกาสที่ข้อ 2 จะเป็นจริงน่าจะน้อยกว่าข้ออื่นๆมาก เพราะเวลาผ่านมาไม่กี่วัน และมีคนในกองทัพประมาณสามแสนคน ไม่น่ามีเวลาตรวจสอบ ดังนั้นไม่ข้อ 1 ก็ข้อ 3 น่าจะเป็นจริง

เห็นด้วยไหมครับ มีทางเลือกอื่นๆที่เป็นไปได้อีกไหม

Monday, November 16, 2009

ธัญญา: เทพธิดาพยากรณ์


วันนี้คุณปองเจ้าของร้านกาแฟใกล้โรงเรียนอนุบาลบ้านพลอยภูมิมาขอให้ธัญญา (ลูกสาวคนเล็กของผม อายุ 2 ขวบ) ใบ้หวยให้

คุณปองถามว่าน้องนับได้หรือยัง พอผมบอกว่ายังไม่ได้ คุณปองก็เอาโทรศัพท์มือถึอส่งให้ บอกว่าให้กดสองปุ่ม

ธัญญากด "85" แล้วคุณปองก็เอาโทรศัพท์คืนไป บอกว่าถ้าหาเจอจะซื้อ ไม่รู้คุณปองซื้อหรือเปล่า

ตอนกลางวันกินข้าว ผมกับภรรยาก็เล่าให้น้องๆที่ที่ทำงานฟัง

พอตอนบ่าย น้องเติ้งที่ทำงานก็บอกผมว่า ธัญญาใบ้หวยเก่ง เลขท้ายสองตัวออก "58" ผมได้ทีก็เลยโม้ใหญ่ว่า เนี่ยถ้าฟังธัญญาแล้วซื้อหวยต้องรวยแน่ๆ พี่นี (พี่เลี้ยงธัญญา) ก็บอกว่าไม่บอกเขาก่อน ไม่งั้นเขาคงจะซื้อทั้ง 85 และ 58 และคงจะถูกแล้ว

ไว้ใกล้ๆงวดหน้าจะให้ธัญญามาใบ้ใหม่นะครับ

ปล.

1. เวลาผ่านไปสักพัก พี่นีก็เข้าถึงสัจธรรมว่า "เออเนอะ เวลาใบ้ผิดก็ไม่เคยพูดถึง"

2. ภาพประกอบคือธัญญาพยายามทานโกโก็เย็น(ที่ดูดมาจากแก้วของแม่)ที่ติดอยู่ตามหน้าให้เกลี้ยงเกลา

3. ความน่าจะเป็นที่จะใบ้เลขสองตัวให้ถูกเป๊ะ = 1/100 ความน่าจะเป็นที่จะใบ้สองตัวแต่ไม่แคร์ว่าตัวเลขจะสลับไหม = 1/50

4. มีคนบอกว่าการซื้อหวย เป็นภาษีของคนที่ไม่เก่งเลข แต่ความเห็นของผมก็คือมันคือความบันเทิงรูปแบบหนึ่งที่คนเอาเงินไปแลกกับความตื่นเต้นเล็กๆน้อยๆ ถ้าไม่บ้าเล่นจนหมดตัวก็น่าจะไม่เลวร้ายไปกว่าความบันเทิงหลายๆอย่าง เช่น ละครหลังข่าว เหล้า บุหรี่ (อืมอบายมุขทั้งนั้นเลยนี่หว่า)

5. ผมซื้อหวยไม่น่าจะเกินสิบครั้งในชีวิต ส่วนใหญ่เป็นการซื้อเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้คนที่มาขอให้ผมใบ้หวยให้ และจะได้หัวเราะเวลาทุกคนถูกกิน (แต่ผมเคยใบ้ถูกหนึ่งครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ)

6. ผมเคยเขียนเกี่ยวกับหวยไว้ในอดีตบ้างในลิงค์เหล่านี้

บทความแนะนำ (อีกแล้ว): “พระยาละแวก” และ “ออกญาจักรี”กับปัญหาการเมืองปัจจุบัน

อาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทองเขียนไว้ที่นี่ครับ

Excerpt:

น่าคิดว่า... ในอดีตนั้น สมเด็จฮุนเซนได้อาศัยราชอาณาจักรไทยที่ให้ความช่วยเหลือเอาไว้มาก แต่ไฉนกลับไปตอบแทนเป็นเรื่องส่วนตัวให้กับทักษิณ

ขณะเดียวกัน ทักษิณเองได้ร่ำรวยส่วนตัวและมีอำนาจ ก็โดยอาศัยสัมปทานสมบัติของแผ่นดินไทยส่วนรวม แต่ไฉนกลับไปสมคบคิดหาผลประโยชน์ส่วนตัวกับฮุนเซน ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อประโยชน์ของชาติไทยส่วนรวม ถึงขนาดไปเป็นที่ปรึกษาให้กัมพูชา ทั้งๆ ที่ ตนเองล่วงรู้ความลับความมั่นคงของชาติจากการเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย และก็รู้จุดอ่อน-จุดแข็ง ในการเจรจาเขตแดนและผลประโยชน์มหาศาลระหว่างไทยและกัมพูชามาก่อน เท่ากับเป็นการนำความมั่นคงของชาติไปอยู่ในจุดที่ล่อแหลม

จะแตกต่างอย่างไรกับ “ไส้ศึก” ?

น่าคิดว่า.. จุดจบของคนอย่าง “ออกญาจักรี” และ “พระยาละแวก” ในประวัติศาสตร์ ไม่เพียงพอที่จะเป็นบทเรียนเตือนสติ หรือเป็นแนวทางสอนใจให้กับผู้ใด บ้างเลยหรือ?

Monday, November 09, 2009

พี่น้องคนไทยเสื้อแดงตื่นได้หรือยัง

เช้าวันนี้มีคนส่งลิงค์ให้อ่านบทสัมภาษณ์นักโทษชายหนีคดีทักษิณ ชินวัตร ที่ให้ไว้กับหนังสือพิมพ์ The Times ของอังกฤษ บทสัมภาษณ์ชื่อว่า "Ousted Thai leader Thaksin Shinawatra calls for ‘shining’ new age after King’s death" ผมอ่านสองรอบ แล้วอ่าน transcript เต็มอีกครั้ง และก็เห็นว่าไอ้เดนคนนี้มันจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างให้อภัยไม่ได้ ผมอยากให้ฝูงชนที่สนับสนุนนายคนนี้ได้ข้อมูลนี้และเลือกกันไปเลยว่าจะยังบูชามันอยู่หรือเปล่า

นักโทษชายคนนี้พูดถึง rule of law, democracy และการถูกกลั่นแกล้ง แต่มันไม่เคยดูตัวเองเลยว่ามันนั่นแหละที่ทำลาย rule of law และ democracy การซื้อเสียงและใช้กลโกงจ้างพรรคมาฮั้วกันเพื่อมาเป็นเสียงข้างมากนั้นมันเป็นการปล้นประชาธิปไตยอย่างน่าอายที่สุด จะพูดถึง rule of law พอมันถูกตัดสินจำคุกเพราะผลประโยชน์ทับซ้อน มันก็แก้ตัวแบบข้างๆคูๆแบบเด็กสิบขวบ แล้วหนีไปต่างประเทศ

มันเป็น Thailand's No. 1 Public Enemy และอริราชศัตรูครับ